วันพฤหัสบดีที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2552

เย็นนี้ฝนตกหนักมากเลย

เย็นนี้ ผมออกจากที่ทำานประมาณ 6.45 น ก่อนลงจากออฟฟิซ ผมก็ชะเง้อมองทางหน้าต่างไปดูที่ถนนสาทร ก็รู้แล้วว่ารถติด แต่มันต้องลงแล้ว ไม่อยากรอ เพราะยังก็ไม่นอนที่ออฟฟิซแน่ ๆ

พอผมลงมาก็ติดจริง ๆ ผมเลยขอแซะออกเพื่อจะกลับรถเข้าสวนพลูขึ้นทางด่วน น่าจะดีกว่า นี้ แต่กว่าจะออกจากออฟฟิซก้ไม่เวลหลายนาทีอยู่ อาศัยเบียดมาเรื่อย ๆ ไม่ใให้ก็ไม่ได้ไปอยู่ดี เพราะข้างหน้ามันติด ตำรวจก็เปิดไฟเขียวแค่ 2-3 คันเท่านั้นเอง เพราะถ้าเยอะกว่านั้น รถก็เข้าพระราม 4 ไม่ได้เหมือนกัน !!

หลังจากที่ผมกลับรถได้ ก็ชะแว๊บเข้าสวนพลู ก็มีบ้างที่ชะลอ เสียเวลาตอนที่มีคนข้ามถนน เดินแบบอยากลงมาก็ลง รถเลยต้องหยุดอย่างเดียว พอพ้นจากตลาดมาก็วิ่งฉิวเลย ผมก็นึกว่ามันจะติดตลอดซอยซะอีก

ผมมาเสียเวลาอีกช่วงก็ตอนรอขึ้นทางด่วน ซึ่งตอนแรกก็กะจะเปลี่ยนใจวิ่งเข้าสุนทรโกษา แต่ไม่เอาดีกว่า รถคงเยอะอยู่แล้ว แต่ทำไมเขาเปิดช่องเก็บตังค์แค่ 3 ช่อง ผมรถวิ่งมากันเป็นพรวนเพื่อรอขึ้นทางด่วนอ่ะ เอออ.. แล้วเจ้าหน้าที่หายไปไหนกันหมด ไม่มาทำงาน เปิดเยอะๆ ไว้สิ วันนี้ผนตก คนต้องหนีขึ้นทางด่วนอยู่แล้ว รู้มั้ยครับ ?!?!

ตั้งแต่ขับรถมานะ ผมคิดว่าคงเป็นวันนี้แหละที่เจอฝนตกหนักที่สุด โดยเฉพาะตอนที่จ่ายค่าผ่านทางขึ้นทางด่วนแล้ว ขนาดผมใช้ที่ปัดน้ำฝนเบอร์ 3 (น่าจะสุดท้ายแล้วมั้ง ? ) ยังเอาไม่อยู่ แต่ว่าสงสารที่ปัดน้ำฝนมันปัดไปมายังไม่รู้ ปัดแบบแปลก ๆ อีกอย่างกลัวว่ามันจะพังด้วย ดูเหมือนไม่ค่อยรื่นดีเหมือนเบอร์ต่ำ ๆ ลงมาซะอีก ก็เลยปรับมาที่เบอร์ 2 แทน ค่อยรื่นหูรื่นตาหน่อย รถมันเยอะอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องซิ่งอะไรหรอก

ผมอยากจะฝากบอกคนที่ขับรถแล้วชอบเปิดไฟฉุกเฉินขณะที่ฝนตกหนักว่าอย่าทำอีกเลย มันไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นหรอก แต่มันจะพลอยทำให้คุณโดนชนได้ง่ายขึ้นเดิมซะอีก ลองคิดดูว่าเวลาคุณจะเปลี่ยนเลนหรือคนอื่นเขาเปลี่ยนเลนแล้วมาเจอรถของคุณที่เปิดไฟกระพริบทั้งสอง บอกเลยว่า เขางงแน่ ๆ ครับ "จะเอายังไงดี ตกลงว่ารถคันนี้จะออกซ้ายออกขวากันแน่ หรือแค่วิ่งฉุกเฉินตรงกลางเฉย ๆ" ช่วงชะลอคิดนี่แหละ ถ้ามีรถซิ่งตาม ๆ กันมาจะ สะดุดกันทั้งยวง

เอาง่าย ๆ สมมติว่าคันที่ตามหลังคุณมาอยากจะแซงคุณมั่ง แค่นี้เขาก็เดาไม่ออกแล้วว่าจะแซงซ้ายหรือแซงขวาดี ยิ่งถ้าเกิดว่าคุณอยากแซงคันที่อยู่ข้างหน้าของคุณพร้อมคันที่อยู่ข้างหลังคุณอีกที รับรองงานเข้าแน่ ๆ ครับ เพราะคุณใช้ไฟเลี้ยวไปแล้วทั้งสองดวง คุณจะบอกว่า คุณตีไฟเลี้ยวนะไม่ได้ เพราะไฟของกระพริบทั้งสองดวงพร้อมกัน ใครจะรู้ว่าคุณจะออกซ้ายหรือขวาล่ะ

ถ้าคุณอยู่ในสถานะการณ์ฉุกเฉินจริง ๆ ผมแนะนำให้จอดรถไปเลยแล้วโทรขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือไม่ก็วิ่งช้าในเลนซ้ายสุด อย่าวิ่ง/ซิ่งในช่องขวาสุดหรือเลนกลางด้วยไฟฉุกเฉิน ยกเว้นวิ่งตามรถตำรวนะ :) เพราะถ้าเกิดอะไรขึ้นมา บอกตรง ๆ ว่า ไม่คุ้มหรอกครับ แค่เปิดไฟธรรมดาก็ช่ วยแล้ว

เอาล่ะ มาต่อเรื่องของผมต่อดีกว่า .. ตอนแรกว่าจะลงที่อาจณรงค์แล้วค่อยเข้ารถไฟสายเก่า แต่คงไม่สะดวกแน่ เพราะช่วงเวลานี้ รถคงไม่ต่างแถมถนนไม่ดีอีกต่างหาก คงไม่กล้าเข้าเสี่ยงแบบนั้น ไปลงสุขุมวิท 62 น่าจะดีกว่ามั้ย ??

ผมตัดสินใจไปลงสุขุมวิท 62 แต่พอลงไปก็สังเกตว่าน้ำมันไหลตามถนนเยอะมาก พอจะออกปากซอย เจอเลยครับ น้ำนี้ล้นขอบถนน แถมมีรถเมล์เพิ่งจะเปลี่ยนเลนเข้าไปอยู่ตรงกลางอีก จะเอาไงดีหว่า จะลองเข้าไปเลยมั้ย หรือว่าจะรอให้รถเมลไปก่อนดี คิดไปคิดมา เอาว่ะ ลองดูสักตั้ง ถนนมันเป็นเส้นตรงนี่นา ตรงนี้เราววิ่งได้ ข้างหน้าก็ต้องผ่านได้เหมือนกัน ...

และแล้ว ผมก็ผ่านมาได้อย่างฉิวเฉียด ไม่มีอาการสะดุดอะไร ไม่เบียดขอบเลยสักนิด ไม่เบียดรถเมล์ เออ.. ดีแล้วล่ะ อย่าให้เจอแบบนี้อีกล่ะกัน

หลังจากนั้น ก็มาเสียเวลาอีกแล้วตอนจะกลับรถได้สะพานพระโขนง รู้ทั้งรู้ว่าตรงมันก็เป็นแบบนี้แหละ แต่ทำไมเขาไม่หาทางแก้กันสักทีนะ ผมเห็นจอดรอกลับรถกันแบบซ้อนสองซ้อนสาม ล้ำเส้นไปถึงกลางถนนโน้น เลยทำให้รถทางตรงเสียช่องจราจรไปหนึ่งช่อง คนที่อยู่ในช่องกลับรถก็จะพยายามเบียดคันข้างหน้าไว้ให้ชิดที่สุด ประมาณว่าอย่าเข้ามานะ ๆ ฉันไม่ไห้หรอก ผมเห็นแบบนี้ทุกวัน วันไหนที่ผมกลับบ้านเร็วผมจะเลี่ยงไปออกสุขุมวิท 42 แทน แล้ววิ่งตรงมาเรื่อย ๆ ไม่อยากมาแย่งที่กลับรถตรงนี้จริง ๆ มันกดดัน มันเสียวกว่าวิ่งหรือซิ่งทางตรงซะอีก

สรุปผมถึงบ้านเกือบ 3 ทุ่ม ทางเข้าบ้าน เจอน้ำท่วมออกมาอีก ตอนแรกนึกว่าไฟแถวนั้นดับซะอีก เห็นมืด ๆ เงียบ ๆ ยังไง่ก็ไม่รู้ ..

ก่อนดับเครื่อง ผมก็เลยเร่งเครื่อง 2-3 ทีและเยียบเบรคย้ำ ๆ ไปด้วย เคยอ่านเจอเวลาขับรถลุยน้ำมาให้ทำแบบนี้ เพื่อไล่น้ำไล่ความชื้นออกจากเครื่องให้พอเป็นพิธีว่างั้นเถอะ .. :)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น


Google
 

Download unlimited stock photos!

Wikipedia

ผลการค้นหา