วันจันทร์ที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2552

สัปดาห์นี้ ไม่มีรถใช้

สัปดาห์นี้ ผมต้องกลับมาใช้บริการรถโดยสารเพราะว่าผมให้เพื่อนน้องแจ๊ซกลับบ้านที่กาฬสินธุ์ แบบว่าเขาไปเป็นครอบครัวและที่สำคัญเป็นเพื่อนสนิทเมื่อกาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ถ้าไม่เช่นนั้นก็คงไม่ได้ไปอย่างแน่นอน :)

เช้านี้ ผมออกจากบ้านก็เวลเมที่ขับรถแหละ ข้ามฝั่งไปขึ้นสองแถวที่หน้าปากซอยไปลงที่อ่อนนุช ต่อด้วยรถเมล์ 116 ไปลงที่สาทร ผมสังเกตว่าเช้าสุขภาพไม่ดี ผมไอมาเหือบตลอดตลอดทาง คิดว่าน่าจะแพ้อากาศ โดยเฉพาะตอนที่อยู่บนรถสองแถว กลิ่นน้ำมัน กลิ่นจากท่อไอเสียเข้ารถเต็ม ๆ หรือเป็นเพราะว่ากินแลคตาซอยไปกล่องหนึ่งตอนท้องว่างๆ ออกจากบ้าน พอเดินเข้าห้องน้ำ เหมือนมีอาการว่าจะอ้วกแตกให้ได้ แต่ไม่มีอะไรหรอก เออ อะไรหว่า ขอเข้าไปห้องนั่งเล่นสักหน่อย เอาอะไรยัดปากไว้นิด สุดท้ายพอได้กินกาแฟแก้วหนึ่งก็รู้สึกดีขึ้น

พอตอนเย็น ออกจากออฟฟิซประมาณ 5 โมง ขึ้นรถเมล์สาย 22 ไปลงที่คลองเตยแล้วต่อสาย 46 ไปลงอ่อนนุช รู้สึกว่ารถไม่ค่อยเยอะนะ วิ่งกันสบาย ๆ ไม่ติดมาก รถเมล์ก็ซิ่งเป็นธรรมดาแหละครับ แต่ก้ไม่ได้รุนแรงมาก เราก็อยากถึงเร็ว ๆ เหมือนกัน .. :)

วันเสาร์ที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2552

เรื่องเสียวหน้า future park

ผมเลือกที่จะเข้ากรุงเทพ ฯ ก่อนที่คนอื่น ๆ จะกลับ เพราะเป็นที่รู้กันว่ารถติดแน่ ในช่วงเทศกาลหยุดยาว ๆ แบบนี้

ระหว่างทางก็มีเรื่องให้อารมณ์เสียบ้างเพราะรถมันเยอะมาก ซิ่ง แซง เบียดเปลี่ยนเลนกันสาระพัดแต่ก็คงทำอะไรแน่นอนไม่ได้ ถ้าตรงไหนมีอุบัติเหตุ ถ้ายังอยู่บนถนนก็จะยากหน่อยที่ค้องหลบให้ได้ หรือถ้าอยู่ข้างทาง ก็จะมีการชะลอดูและทำให้รถที่ตาม ๆ กันมาติดเป็นหางยาวออกไปไกล

วันนี้ ผมมีเพื่อนร่วมทางมาด้วย 3 คน สองคนพักอยู่ทางฝั่งธนฯ ส่วนอีกคนอยู่ที่คู้บอน ผมเลือกส่งตรงที่เป็นกลางที่สุด เลยขอส่งแค่ที่ Future รังสิตละกัน เพราะถ้าจะให้วิ่งส่งทั้งหมด ยิ่งทางฝั่งธน ฯ นะ ผมตายแน่ ไม่ใช่รถหรือค่าน้ำมันหรอก แต่เพราะว่าผมจะกลับมาทางอ่อนนุชไม่ถูกสิครับ

พอถึงช่วงที่จะแวะเข้าไปส่งเพื่อนร่วมทางที่รังสิต รถเยอะมาก วิ่งกันแบบหาเลนไม่ได้เลยครับ ทำไมถึงอยากเข้า-ออกตรงมากก็ไม่รู้นะ รถเมล์ แทกซี่วิ่งกันน่ากลัวมาก แบบขอให้ได้ไปโดยไม่แคร์มีรถเยอะแยะแค่ไหน แซกได้ทันทีที่มีช่อง ผมก็มัวมองหาที่จอด จะแซกเข้าหลังแทกซี่คันข้างหน้า แต่แล้วจู่ ๆ ก็มีรถ ปอ. อะไรสักอย่างนี้แหละซิ่งมาทางขวาเข้ามาแซกแทน อ้าวว .. แล้วจะรีบไปไหน อั้วะจะเข้าเทียบที่จอดอยู่แล้ว รอหน่อยไม่ได้หรือไง !?!? นี่ถ้าเราออกตัวแบบนั้นนะ มีหวังชนไปนานแล้ว สภาพรถไม่เป็นแบบเท่าทุกวันนี้หรอก

จากนั้นผมก็วิ่งมาเรื่อย ๆ ตามพหลโยธินแล้วก็มาเลี้ยวขวาเข้ารัชดา ฯ ขอไปส่งข้าวสารกับถุงหน่อไม้ให้พี่ชายที่ห้วยขวางก่อน วันพรุ่งนี้ จะได้พักเอาแรงดีกว่า ไม่อยากออกมาอีก แม้จะไม่ไกลมาแต่ถ้าไม่จำเป็นเลี่ยงการเดินทางไปเลย

สัก 3 ทุ่มครึ่ง หลังจากพักกินข้าวกินปลาเสร็จผมก็ขับรถกลับบ้านที่อ่อนนุช แม้ว่าจะเป็นช่วงวันหยุดแต่รถในกรุงเทพฯ ก็ วิ่งกันเยอะเหมือนกัน อาจจะเป็นเพราะคนเริ่มกลับมาเยอะอย่างที่เราทำอยู่ก็ได้

สุดท้ายบอกได้คำเดียวว่า ขับรถช่วงเทศกาล เหนื่อยกว่าที่คิดอีก คืนนี้ขอนอนเร็วหน่อยละกัน

วันพฤหัสบดีที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2552

กลับบ้านตอนปีใหม่

วันนี้ ผมออกเดินทางจากบ้านโสกนากไปชัยภูมิ พอตอนบ่ายได้เวลากลับบ้าน ผมเลยขอไปร่วมงานเพื่อน ๆ ชาว ปสว. ที่บ้านไก่นา ซึ่งตอนแรกผมตั้งใจจะพาน้องเจไดกลับไปส่งที่บ้านโสกนากก่อน เสร็จแล้วผมขับรถเข้าขอนแก่นคนเดียว น้องเจไดจะได้ไม่เหนื่อยมากเพราะเดินทางมาทั้งวันแล้ว และเพิ่งจะได้แค่ 2 เดือนเท่านั้นเอง

บ่าย ๆ ตอนขากลับจากบ้านที่ชัยภูมิ ผมเลยตกลงกับแฟนว่าจะเข้าไปที่งานก่อนแล้วค่อยกลับสัก 3 - 4 ทุ่ม เมื่อตกลงกันได้ พอวิ่งมาถึงแยกใน อ. มัญจา ผม ก็เลยเลี้ยวซ้ายเพื่อเข้าขอนแก่นซะเลย เจอด่านตำรวจช่วงก่อนเข้าเมืองขอนแก่น อยู่ด่านหนึ่ง ผมดูๆ ว่าเขาคงแจกอะไรสักอย่างแต่พอมาถึงผมถุงนั้นก็หมดพอดี เลยไม่รู้กันว่ามันมีอะไรอยู่ในถุง เสียดายจัง :)

ผมขับรถต่อจากนั้นมาไม่นาน ก็เจอทางเลี่ยงเมืองไปทางอุดร ซึ่งเป็นทางเลี่ยงเมืองตัวจังหวัดขอนแก่นทางได้ทิศตะวันตก ถนนไม่ค่อยดีเท่าไรหรอก อาจจะเป็นเพราะรถบรรทุกวิ่งเส้นนี้กันเยอะมั้ง

พอออกจากเลี่ยงเมืองก็วิ่งตรงไปเรื่อย ๆ ประมาณสัก 8 - 10 โล ก็ถึงทางเข้าหมู่บ้านไก่นาแต่อาจจะต้องสิ่งเลยไปนอดหนึ่งเพื่อไปกลับรถหน้าโรงงานอะไรสักอย่างแถวนั้น แต่ก็ไม่มีปัญหาอะไร เวลากลับรถก็พยายาม ตีวงให้แคบที่สุด จะได้ไม่ไปกินเลนกลาง ทำให้รถที่วิ่งทางตรงมาไม่เสียจังหวะ และเราเองก็จะสามารถกลับรถได้ง่ายขึ้นด้วย

พอถึงที่บ้านไก่นา เพื่อน ๆ ก็มากันเยอะแล้วเลยแต่หาที่จอดรถไม่ได้เลยจอดมันตรงทางเข้าบ้านนั่นแหละ ขวางทางหน่อยแต่ก็น่าจะไม่เป็นไรหรอกและน่าจะเข้าใจเพราะมันแคบ ไม่อยากไปจอดไกล

ถ้าใครได้ไปงานนี้ก็อาจจะรู้สึกเฉย ๆ แต่ผมว่ามันได้บรรยากาศงานเก่า ๆ เพื่อน ๆ ในสมัยที่เคยบวชเรียนมาด้วยกันมาเจออีกครั้ง ที่น่าสนใจสำหรับวันนี้ ผมคิดว่าตรงที่เรามีอาจารย์หาญมาร่วมงานนี้ด้วย แต่ผมก็ไม่มีเวลาไปคุยกับอาจารย์สักเท่าไร ติดที่ต้องคอยดูแลน้องเจได เพราะเป็นครั้งแรกที่แกมานอนต่างบ้านต่างถิ่นแบบนี้ ต้องเดินเข้าออกบ้านเป็นว่าเล่น

พอตกดึกมา น้องเจไดท่าทางจะง่วงนอนแต่นอนไม่ได้ เพราะเสียงดังบวกกับที่เคยนอนเปลแบบไกว ร้องใหญ่เลย เจ้าบ้าน(คุณพ่อคุณแม่ของเจ้าบ้านนั่นแหละ) ต้องหาผ้าขาวม้ามาทำเป็นเปลให้ จึงสงบไปได้ แต่ก็นอนแบบสะดุ้งตลอดเวลา เพราะเสียงดัง.. สรุป สี่ทุ่มกว่าๆ ผมเลยขอบอกลาเจ้าภาพขอพาลูกกลับบ้านที่โสกนากดีกว่า เพราะสงสารน้องเจได ยังไง ๆ ก็คงนอนไม่ได้แน่ ๆ

ตามปกติแล้ว ผมจะพยายามไม่ขับรถตอนกลางคืนเพราะมองไม่ออก แพ้แสงไฟรถที่สวนมา มองทางไม่ค่อยออก แต่คราวนี้มันจำเป็นจริง ๆ ผมเลยขับแบบช้า ๆ หน่อย ไม่เร่ง ไม่แซงมาก ดีว่ารู้จักเส้นนี้ เลยไม่มีปัญหาอะไร

สรุป ผมพาน้องเจไดกลับถึงบ้านเกือบเที่ยงคืน ก็ไม่ได้ทำอะไรมาก นอนเลย ป่านนี้แล้งไม่ต้องอาบน้ำหรอก :P

Google
 

Download unlimited stock photos!

Wikipedia

ผลการค้นหา