วันเสาร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

อาทิตย์ทีผ่านมา ตำรวจตั้งด่านเยอะมาก

อาทิตย์ทีผ่านมา ถ้าใครออกต่างจังหวัดไปทางอีสาน ก็จะเห็นว่าตำรวจ ตั้งด่านตรวจกันเยอะมาก จนเรียกว่าผิดปกติเลย ผมก็แปลกใจนะว่าเขาตั้งด่านตรวจอะไรกันหรือเปล่า เพราะส่วนใหญ่ที่เห็นเรียกตรวจก็เป็นรถปิกอัพกับระบรรทุกเหมือนทุก ๆ ครั้ง รถเก๋งก็ไม่ค่อยเรียกเท่าไร นาน ๆ ที

นอกจากนั้น ยังมีช่วงที่ผมวิ่งมาถึงสีดา จะเข้าโคราชก็มีรถตำรวจทางหลวงวิ่งนำขบวนรถทัวร์ 7-8 คันมั้ง ผมก็พลอยได้รับอานิสงส์กับเขาเหมือนกัน เพราะพอผมวิ่งมาถึง อ. สีดา ผมก็มองว่าเป็นไฟแดงอ่ะนะ แต่ตำรวจก็เดินลงมาเตร่ ๆ บนถนน พร้อมกับโบกมือว่าให้รถผ่านเลย ๆ งงครับ ไม่เคยเจอแบบนี้ ก็เลยจะจอดรอให้ไฟเขียวก่อนค่ยไป และรถส่วนใหญ่ก็ชะลอจะจอดกันทั้งนั้นแหละเพราะไฟแดงข้างหน้า ตำรวจก็มายืนรอ ถ้าคุณเห็นก็คงประมาณว่าเอ้ย ไฟแดงแล้วนะ ตำรวจ รออยู่ ห้ามซิ่งผ่านแดงไฟเด็ดขาด ?!?! :)

จากที่สังเกตนะ ผมว่าคนเดินทางเยอะเหมือนกันสำหรับวีคเอนต์นี้ รถบรรทุกก็เยอะ สามารถทำความเร็วได้เป็นบางครั้ง จอดพัก 2-3 ครั้งเหมือนทุกครั้ง เพราะตามปกติผมไม่ค่อยชอบจอดพักทานข้าวเวลาเดินทาง ผมรู้สึกไม่อร่อย ต้องทานแบบรีบ ๆ ดีไม่ดีอาจจะไม่สะอาดด้วยซ้ำ ส่วนใหญ่ก็แวะเข้าปั้มเพื่อเติมน้ำมัน เข้าห้องน้ำ ล้างหน้า และกาแฟสักแก้ว เรียกความสดชื่น ครายเมื่อยกล้ามเนื้อเท่านั้นเอง ถ้ารู้สึกหิวก็จะซื้อลูกชิ้นที่ทอดใหม่ ๆ มาสัก 2-3 ไม้ก็พอ.. :)

วันอาทิตย์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

เหมือนมีถุงน้ำติดตรงสะเกิร์ตเลย

หลังจากที่ผมกลับบ้านนอกเมื่อวันที่ 14 ที่ผ่านมา พอกลับมาถึงกรุงเทพฯ ก็เย็นมากแล้ว ประจวบกับผมรู้ไม่ค่อยสบายตัวดีนัก เลยไม่ได้นำไปล้างสักที พอวันนี้ จอดรถมาทั้งวันแถมได้จอดในร่มอีกต่างหาก เลยจะเอารถไปล้างสักหน่อย ก็คงเป็นทีเดิมแหละครับ ไม่อยากไปไกลบ้านมาก เสียเวลา ยิ่งถ้าไปแล้วมีคิวยาวก็คงอีกนาน ไหนจะไม่รู้เรื่องราคาอีกว่าเขาคิดกันเท่าไหร่

ขับรถออกจากบ้านก็เกือบ 5 โมงเย็น พอดีไปถึงที่ล้างรถ ก็เห็นมีที่ว่างสำหรับรถได้คันหนึ่งพอดี ก็เสียบลเลยครับ ไม่ต้องมีคิว ผมล่ะช๊อบ ชอบ.... พอผมนั่งรอรถที่เขากำลังอยู่ก็มีรถมาอีก 3-4 คัน โอ้ โห.. วันนี้อู่ที่รถท่าทางจะเงินดีนะเนี๊ย :)

พอเขากำลังเช็ด ๆ รถ ผมเลยเดินไปบอกให้ช่างเขาช่วยเช็คห้องเครื่องให้หน่อยเพราะไม่ได้เช็คมานานแล้ว ช่างเขาก็ทำให้แหละ มีการเติมน้ำกลั่น น้ำหล่อเย็นสารพัดอ่ะนะ ดีครับ .. จากนั้น ผมก็เดินดูรอบคัน ก็เจอว่าที่สะเกิร์ตด้านหน้ามีรอยย่น ๆ พร้อมกันมีน้ำขังอยู่ พูดง่าย ๆ ก็เหมือนมีถุงน้ำติดตรงสะเกิร์ตนั่นแหละครับ ผมเลยเอามือไล่น้ำ ไล่ลมออกก็ดูโอนะ ไม่เป็นไรมาก ลองถามช่างที่กำลังเช็คห้องเครื่อง เขาบอกว่าฟิล์มที่ติดมันไม่ถลอกออกมา แต่เคลมประกันได้ น้าน แนะนำด้วยว่าให้เคลมกับประกันเอา .. เออ.เดี๋ยววันไหนว่าง ๆ เอารถเข้าศูนย์ให้เช็คดีกว่า คิดไปคิดมา ก็เสียดายที่ไม่ได้ถ่ายรูปเก็บไว้ให้ช่างดู เผื่อจะได้ดูแล้วเข้าใจง่ายขึ้น :)

วันอังคารที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

จอดรถการเคหะ ฯ

เมื่อปีที่แล้ว ผมไปติดต่อเรื่องบ้านเอื้อาทรหลายต่อหลายครั้ง แต่แล้วก็ต้องยกเลิกไปเพราะผมว่าเสียเวลามานานมาก แต่ยังไม่ได้เข้าอยู่สักที ผมก็ไมทราบเหมือนกันว่าทำไมนักหนา เริ่มเดินเรื่องจนจะข้ามปีแต่ยังเข้าอยู่ไม่ได้ ทั้ง ๆ ที่ตัวอาคารนั้นเสร็จเรียบร้อยแล้วและบางคนก็เข้าอยู่แล้ว คิดแล้วงงบวกเซ็งนิด ๆ ครับ ..

ถ้าคุณจะขับรถไปทำธุระที่การเคหะ ฯ ก็ต้องออกจากบ้านเร็วหน่อย ถึงแม้ว่าการเคหะ ฯ จะมีลานจอดรถกว้างพอสมควรแต่เอาจริงๆ มีพื้นที่ไม่มากสำหรับจอดรถ ยิ่งถ้ามีการกางเต้นท์เพื่อทำกิจกรรมนอกอาคารเช่นเรียกลูกค้าของโครงการอื่นๆ ให้ไปทำสัญญาพร้อมกัน เขาจะเลือกเอาที่ตรงลานจอดรถที่มีอยู่แล้วนั่นแหละก็จะทำให้บริเวณสำหรับจอดรถน้อยไปอีก นั่นคือถ้าไปช้าก็จะลำบากเรื่องหาที่จอดไม่ได้

โดยรวม ผมยังไม่เคยเจอปัญหาว่าจอดไม่ได้ จะมีบ้างครั้งหนึ่งที่ไปขอจอดกับพื้นที่สำหรับพนักงาน เพราะไม่อยากวนออกไปจอดที่สนามกีฬา คุณยามก็ไม่ได้ว่าอะไร แค่บอกว่าเป็นที่จอดสำหรับพนักงานเท่านั้นเอง :)

- การเคหะ ฯ

วันอาทิตย์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

เช้านี้ไปหาหมอ

ช่วง 2-3 วันที่ผ่าน รู้สึกว่าเจ็บคอตอนตื่นนอน เช้านี้เลยจะไปหาหมอโรงพยาบาลวิภารามให้เช็คดูสักหน่อยว่าเป็นไง เพราะกินอะไรไม่ค่อยได้เลย พอไปถึงก็นั่งรอหมอแยู่ประมาณ 15 นาที พยาบาลหน้าห้องตรตวจว่าคุณหมอไปตรวจคนไข้ชั้นบน เออ .. คงต้องรออ่ะนะ มาแล้วนี่นา

พอหมอมาก็ตรวจ ๆ เช็ค ๆ อยู่ไม่นานมาก สัก 10 - 15 นาทีมั้ง ก็แนะการรักษา พร้อมให้ยามา 2 แพค เป็นยาแก้อักเสบกับแก้แพ้ แล้วก็มีน้ำยาบ้วนปากอีกขวดหนึ่ง ก็เป็นอันว่าเสร็จ เตรียมตัวไปทำงานต่อได้ .. :)

ผมถึงที่ทำงานประมาณ 10 โมงครึ่ง ก็เช็คเมล์ ทำอะไรนั่นนี่ไปเรื่อย ๆ ก็ต้องรีบออกไปทานข้าว เตรียมตัวไปเข้า meeting รอบบ่ายที่แชงกรีลา จริงๆ โรงแรมนี้ก็ใหญ่ดีนะ แต่ถ้าขับรถมาผมว่าไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ รถติด ทางเข้าออกแคบไป และทางขึ้นลานต้องวนขึ้นและเวลจะขึ้นแต่ละชั้น ทางจะแคบมากด้วย

ตอนเย็น ผมออกจากโรงแรมประมาณ 5 โมง รถคงไม่ติดมากหรอกกะว่าจะกลับทางเดิมเหมือนทุกวัน แต่พอส่งเพื่อนที่ทำงานเสร็จ รถเยอะมาก ท่าทางจะไม่ไหวแน่ ๆ คงรอกันอีกนาน เลยฉีกออกขวา กลับรถเข้าซอยสวนพลู ไปขึ้นทางด่วนลงอ่อนนุช 62 ดีกว่า

พอขึ้นทางด่วนได้ ก็ยังเห็นว่ารถเยอะมาก วิ่งกันได้แค่ 30 - 40 km/h เท่านั้น แต่พอเลยทางท่าเรือก็สบายหน่อยสามารถทำความเร็วได้ พอเลยช่วงลงอาจณรงค์ ผมกดคันเร่งไปที่ 100 - 110 เลยมั้ง พอดีมองหลังเห็นมีรถคันหนึ่งวิ่งตามมา แต่เสียใจเพราะผมเริ่งกดคันเร่งแล้วคงถอนยาก พอเลนกลางว่าง ผมเลยจะแว๊บเปิดทางให้เขา อ้าว อะไรเนี่ย ยังจะตามมาอีก .. งั้นหาจังหวะออกเลนซ้ายดีกว่า เพราะไหนๆ ก็จะเข้าเลี้ยวซ้ายออก 62 แล้ว ตีไฟกระพริบออกไป พอชะแว๊บออกไปได้ครึ่งคันมองกระจกหลัง อ้าว เขายังตามมาอีก เออ .. ให้มันรู้ว่าจะรีบไปไหนกันแน่ หรือแค่อยากตามเราเฉย คนขับเป็นผู้หญิงด้วยแหละ คิดว่าคงไม่ใช่หาเรื่องกันหรอกมั้ง :)

ผมว่าบางรถติดแล้วทำให้คนวิ่งกันช้าลง ถึงมีอุบัติเหตุก็ไม่รุนแรงเหมือนวิ่งเร็วกัน แต่ส่วนใหญ่จะแค่เฉี่ยวกันเพราะไม่ยอมให้อีกฝ่ายหนึ่งเข้า/ออกเลนที่ตัวเองอยู่ แทนที่จะทำให้ไปได้เร็วกลับต้องมาเสียเวลาตกลงต่อรองกันกับประกัน กับตำรวจอีกนานเลย



วันพุธที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

ออกจากที่ทำงานช้ากว่าทุกวัน

เย็นนี้ กว่าจะออกจากที่ทำงานได้ก็ปาเข้าไป 6.30 เพราะมีงานต้องเร่งทำสักหน่อย

พอออกจากหน้าออฟฟิซก็ติดแล้ว รถเยอะมาก ตอนแรกก็กะจะฉีกออกไปเข้าซอยสวนพลู ขึ้นทางด่วนไปลง 62 แต่ก็คิดว่าน่าจะพอไปได้ เลยยอม ๆ วิ่งออกสาทรเข้าพระราม 4 ตามปกติ แต่กว่าจะออกจากสาทรได้ก็ใช้เวลานานเหมือนกัน

พอผ่านหน้าบ่อนไก่ ดูท่าว่ารถคงจะเยอะ งั้นเปลี่ยนเส้นทาง ขึ้นทางด่วนแทนละกัน แต่แล้วก็ผิดคาดครับ บนทางด่วน รถก็เยอะเหมือนกัน จะทำความเร็วได้จากช่วงเลยคลองเตยไปอ่อนนุชเท่านั้นเอง

ช่วงก่อนถึงโลตัส อ่อนนุช ก็เห็นว่ามีรถคัรหนึ่งข้างหลัง ใช้ไฟหน้าได้แสบตามาก สีขาว สว่างไสว น่ารำคาญเป็นที่สุด ไม่รู้ไปทำมาได้ไง วิ่งตามหลังมานานแล้ว พอรถเลนขวาว่างเราก็เลยชะแว๊บเข้าขวา กะว่าคงหนีพ้นแล้ว ปล่าวครับ เขายังตามเรามอีก งั้นขอขับแบบช้าให้พี่แกไปก่อนละกัน ขืนให้แกตามหลังตลอด เราจะชนคนอื่นก่อนพอดี

พอถึงตรงใต้สถานีรถไฟฟ้า bts เลยแหละ เราก็ค่อย ๆ ไปแหละ รถมันเยอะ แต่แล้วก็มีรถปิกอัพสีดำมั้ง ทะเบียนเป็นของเมืองชลบุรี วิ่งตัดหน้า พุ่งปรี๊ดเข้าจากเลนขวาสุดเพื่อจะเข้าส่งคนที่บันได้ขึ้นรถไฟฟ้า เห็นแล้วหมั่นไส้ เลยกดแตรใส่ให้หายยั่วสักหน่อย ถ้ารถเราเป็นปิกอัพและมีโครงเหล้กหน้ากันชนเหมือนปิกอัพทั่วไปที่เขามีกัน เราคงยอมชนกันเขาแล้ว เบื่อจริง ๆ เพราะความเสียหายมันน้อยกว่าแจ๊ซอยู่แล้ว


Google
 

Download unlimited stock photos!

Wikipedia

ผลการค้นหา