วันศุกร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

หลงทางเสียเวลา

วันนี้ ผมมีธุระต้องไปทำซีคอนหลังเลิกงาน ซึ่งตามปกติ ผมก็ไปที่นี่ประจำตอนวันหยุด และก็ไม่เคยใช้เส้นทางนี้เลย

พอผมลงจากทางด่วนออกที่ซอยสุขุมวิท 62 แล้วกลับรถเพื่อจะเข้าซอยสุขุมวิท 101/1 แต่ดันไปเข้าซอยสุขุมวิท 101 แทน เพราะลืมไปว่ามีอีกซอยอยู่ข้างหน้า

เมื่อผมวิ่งเข้าซอยสุขุมวิท 101 ก็ซิ่งตรงไปเรื่อย ๆ จนจะสุดซอยแล้วก็ลองเลี้ยวขวาเข้าไป แต่ดูท่าทางจะไม่ใช่ เลยจอดถามคนแถวนั้น .. เขาบอกผมว่าเป็นทางตันให้กลับไปเข้าซอย 38 หรือ 40 เพื่อทะลุออกศรีนครินทร์ ..

เอาล่ะ ผมขับเข้าไปในซอยนิดหนึ่งแล้วก็กลับรถเพื่อวิ่งออกทางเดิม แต่คราวนี้ มันหนักกว่าเมื่อกี้เพราะตอนนี้ แดดส่งเข้ากระจกบานข้างหน้าอย่างแรงจนผมแทบจะไม่เห็นหนทางเลย ไหนจะต้องคอยมองหาทางเข้าซอยที่จะทะลุออกไปให้ได้ ไหนจะต้องคอยมองให้ดีกว่าเพราะกลัวมอเตอร์ไซต์หรือมีรถสวนมาตลอด ผมจึงต้องขับขับช้า ๆ เอา

พอผมวิ่งไปจนถึงซอยประมาณ 30 ต้น ๆ เอาเป็นว่า ผมลืมไปว่าต้องหาที่เลี้ยวเข้าซอยที่เขาบอกมา เพราะอ่านป้ายหมายเลขซอยไม่ได้เลย..

ผมก็ต้องหาที่กลับรถอีกรอบเพื่อหาซอย 40 .. พอผมกลับรถได้ก็เริ่มนับซอยมาเรื่อย ๆ จนมาถึง 38 .. เออ ทำไมมันเล็กจัง มันจะพ้นไปได้ไหมเนี่ย ?! ผมเลยไม่เข้าซอย 38 วิ่งไปเข้สซอย 40 แทน ผมเห็นมีรถปิกอัพป้ายแดงวิ่งระเลียดเล่น เหมือนหัดขับรถเลย ผมก็เลยแซงเขาเข้าไปข้างใน .. ซวยแล้ว เจอซอยตัน ต้องหาทางออกซะแล้ว...!!!

เออ.. ตกลงเขาบอกผิดหรือว่าเราจำผิดกันแน่ เพราะมัวมองหาซอยที่จะเข้าเลยจำสับสนไป!!

ผมกลับรถออกจากซอย 40 แล้วเลี้ยวขวา .. อืมม เจอแดดแรง ๆ อีกแล้ว เมื่อกี้ก็เพิ่งจะผ่านไป .. แต่ต้องทนเพื่อหาทางออกไปศรีนครินทร์ให้ได้

เมื่อผมมาซอย 30 ก็ตีไฟเลี้ยวแบบประชิดเหมือนกัน แต่ดีที่พี่มอเตอร์ไซต์ข้างหลังแกไม่ได้ขับมาไกล้มาก เลยไม่มีอะไรเกิดขึ้น

พอผมขับมาถึงกลางซอยเท่านั้นแหละ ผมก็เจอป้ายสีเขียวบอกทางไปศรีนครินทร์ เออ.. แล้วเมื่อกี้ไม่ยักกะเห็นว่ามีป้ายตรงทางเข้ามาที่ปากซอย 30 เลยนี่หว่า !!!

จากนั้น ผมก็ขับเลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวาตามป้ายไปเรื่อย ๆ มาช้าอีกทีก็ตอนจะเข้าซอย 101/1 มั้ง รถเยอะมาก แบบแน่นสนิทเลย กว่าจะหลุดออกมาก็ใช้เวลาเหมือนกันเพราะต้องเบียดออกกันสาระพัด รถเยอะจริง ๆ นะเนี่ย ขนาดผมอุตส่าห์ออกจากที่ทำงานตั้งแต่ตอน 4 โมงนิดๆ แล้วนะ ยังเจอแบบนี้อีก

พอผมเลี้ยวซ้ายเข้าสุขุมวิท 101/1 แล้วแต่ก็ยังทำให้ผมงงมาตลอดเส้นทางเพราะมันได้ตรงดิ่งอย่างที่ผมคิดไว้ มันคดเคี้ยวเลี้ยวซ้ายขวาไปตลอด แต่ยังดีที่มีป้ายบอกทางให้เวลาเจอแยกให้เลี้ยว ไม่ได้ต้องตาม ๆ คนข้างหน้าเหมือนตอนแรกที่ขับเข้ามา

แอ๊น.. แอ้น.. แอ่น... และสุดท้าย ผมก็โผล่ออกศรีนครินทร์โดยมีห้างซีคอนตั้งตระหง่านอยู่ฝั่งตรงข้าม ผมก็ขับเข้าซ้ายเตรียมขึ้นทางข้ามเข้าซีคอน ตามนั้นแล .... :)


วันอาทิตย์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

งานเข้าแต่เช้าเล้ย!!

ผมตื่นมาตอนตีห้ากว่า ๆ เพื่อจะไปส่งเพื่อนที่สนามบินแล้วก็จะไปรับน้องเจไดกลับบ้าน

พอผมกับเพื่อนจัดข้าวของเสร็จเรียบร้อย พร้อมเดินทางก็เดินทางมาที่รถ เข็นรถปิกอัพที่ขวางทางออกคันหนึ่ง แต่ก็ไม่พ้น เลยเรียกเจ้าของรถลงมาให้เลื่อนออกไปข้างนอกแทน ..

เมื่อทางสะดวก ผมก็เปิดประตูรถเตรียมสตาร์ทรถ แต่แล้ว .... พอบิดกุญแจจะสตาร์ทรถ มีอาการเหมือนตัวส่งไฟไม่พอ เออ.. ผมเพิ่งจะเปลี่ยนแบตเมื่อกลางปีนี่นา มันจะหมดเร็วขนาดนั้นเลยเหรอ ?!?!

ผมลองบิดกุญแจสตาร์ทอีก 2-3 ครั้งก็ไม่ดีขึ้น อืมมม.. พอจังหวะรีบ ๆ แต่รถกลับใช้งานไม่ได้ เอาไงล่ะทีนี้..

เมื่อผมเห็นท่าไม่ค่อยสู้ดี ผมเลยชวนเพื่อนเดินออกไปปากซอยแล้วเรียกแทกซี่ให้ไปส่งที่สนามบินแทนก่อน เดี๋ยวผมจะกลับมาจัดการกับรถอีกที อยากรู้เหมือนกันว่ามันเป็นอะไร ???

เอาล่ะ เมื่อส่งเพื่อนขึ้นรถแทกซี่เรียบร้อยแล้ว ผมก็เดินกลับมาที่รถ เปิดกระโปรงหน้าดูอุปกรณ์หน่อยว่าตรงไหนที่มันจะเสีย จะพังบ้าง ซึ่งจริง ๆ ผมก็ไม่ได้มีความรู้เรื่องเครื่องยนต์อะไรหรอก แต่ขอดูก่อนเผื่อหาจะทำอะไรได้บ้าง

หลังจากที่ดูตรงนั้น ตรงนี้ที ผมก็พบว่าน้ำกลั่นมันพร่องลงไปเยอะ แล้วผมก็ปิดกระโปรงรถ แล้วเดินขึ้นไปบนห้อง ลองดูว่าเป็นที่คิดหรือเปล่า เพราะไม่แบตหมดจริง ๆ ก็อาจจะต้องปลุกคนข้างห้องให้เขามาช่วยพ่วงแบตก็ได้

ผมก็เลยลองโปรไปหาเพื่อนอีกคนที่เขาใช้ฮอนด้าเหมือนกัน เขาแนะนำให้ติดต่อเบอร์ของ honda service ที่มีในคู่มือรถได้ เป็นบริการฟรีเพราะเขาใช้มอเตอร์ไซต์วิ่งให้บริการ เผื่อเขาจะได้เช็คอย่างอื่นด้วยว่าอะไรที่มันมีปัญหากันแน่

จากนั้น ผมเดินลงไปที่รถเพื่อหาเบอร์แล้วก็โทรแจ้งหน่อวยบริการขอความมช่วยเหลือด่วน ตามที่มีในคู่มือรถโดยบอกเขาว่า รถสตาร์ทไม่ติดในซอยอ่อนนุช พอวางสาย ผมก็รอ ๆ อยู่แถวรถนั่นแหละ แล้วก็มีโทรศัทพ์ดังขึ้นบอกว่าติดต่อช่างให้แล้ว พร้อมบอกชื่อช่างและลักษณะรถที่จะมาให้บริการ เป็นข้อมูลให้กับลูกค้าไว้ก่อน

ผมรออยู่ประมาณ 15 - 20 นาที ผมก็เห็นชายคนหนึ่งใส่ชุดสีแดงขับรถมอเตอร์ไซต์สีขาววิ่งเข้ามาที่หน้าหอพัก เออ .. น่าจะใช่ตามที่บอก มาเร็วดีนะ อยากให้เป็นแบบนี้ทุกทีจัง

พอเขาจอดรถเสร็จก็โทรหาเบอร์กลางบอกมาถึงไซต์แล้ว จากนั้นไม่นาน โทรศัพท์มือถือของผมก็ดังชึ้น พอผมรับก็เนเสียงของคนเดิมที่คุยกันเมื่อกี้ถามว่าเจอช่างแล้วนะค่ะ ผมก็คอนเฟิร์มไปตามนั้น

ระหว่างนั้น ช่างก็เปิดกล่องเครื่องมือที่ท้ายรถ ดึงเอาแบตเตอร์รี่ก้อนหนึ่งออกมาแล้วไปวางไว้ที่หน้ารถของผม จัดการพ่วงแบต แล้วให้ไปผมลองสตาร์ทรถดู .. โอ้ .. เป็นไปตามคาด แบตมีปัญหาจริง ๆ

หลังจากนั้น พอผมขับรถออกไปได้ ผมก็แวะเติมน้ำกลั่นที่ปั้มคาลเท็กซ์ใกล้บ้าน แล้วบึ่งรถไปคู้บอนเพื่อรับน้องเจไดกลับบ้าน ..

เบอร์ติดต่อ honda service
1800 555 000 -- เป็นเบอร์โทรฟรีแต่ผมติดต่อเบอร์นี้ไม่ได้ (เหมือนเบอร์ยังไม่เปิดใช้บริการ)
1401 555 000 -- เป็นเบอร์มือถือที่ติดต่อง่าย คุยดีครับ



วันอาทิตย์ที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

เช้าไปบางปู เย็นไปบางเขน

เช้านี้ ผมขับรถออกจากบ้านตอนเช้าประมาณ 9 โมงครึ่งไปรับเพื่อนที่สนามบินไปเที่ยวที่เมืองโบราณ สมุทรปราการ

พอไปถึงสนนามบิน ผมก็จอดรอเพื่อนอยู่ชั้นผู้โดยสารขาออก แต่ยังไม่ได้วิ่งเข้ามาในหน้าอาคาร เพราะกลัวว่ายามจะมาไล่ไปซะก่อนที่เจอจะเพื่อน แล้วต้องวิ่งวนขึ้นมาใหม่อีกรอบ

ผมรออยู่ตรงนั้นไม่นานเท่าไร เพื่อนก็โทรมาบอกให้มารับได้ ตอนนี้รออยู่ข้างหน้าแล้ว ..

หลังจากที่ออกจากสนามบิน ผมใช้เส้นถนนกิ่งแก้ว ไปเทพารักษ์ เข้าศรีนครินทร์ ซึ่งตอนแรกจะวิ่งตรงแล้วเลี้ยวขวา เข้าสุขุมวิทสายเก่าอีกที แต่ดูถนนแล้วไม่ค่อยน่าไปเลย เพราะถนนแคบ ผิวขรุขระ และวิ่งเลียบคลองไปอีกต่างหาก คิดว่าใช้ศรีนครินทร์น่าดีกว่าแน่นอน และผมก็ชินกับทางเส้นนี้มากกว่าด้วย

พอผมไปถึงเมืองโบราณก็จอดรถให้เพื่อนไปซื้อตั๋วเข้าชมที่ออฟฟิซไกล้ประตูทางเข้า ..

ระหว่างที่อยู่ภายในเมืองโบราณ เราแวะชมกับถ่ายรูปกันไม่กี่ที่หรอกเพราะแดดร้อนจัด เมื่อเช้าออกจากบ้านยังคลื้มฟ้า คลื้มฝน แต่ตอนนี้ทำไมมันร้อนเปรี้ยง ๆ ซะงั้น

พอออกจากเมืองโบราณ เราไปกินข้าวเที่ยงกันที่ร้านสายลม บางแสน 2 ที่อยู่ไม่ไกลจากเมืองโบราณแต่เป็นตรงข้าม (คิดว่าไม่น่าจะเรียกเยื้อง ๆ ได้อ่ะ )

จริง ๆ ผมเคยมาร้านนี้ตั้งแต่เมื่อปีก่อนแล้ว ชอบบรรยากาศร้านนี้มาก อาหารก็อร่อยดี ที่สำคัญ สั่งอาหารเสร็จก็ไม่ต้องรอนาน เพราะเขารับออเดอร์แบบออนไลน์ หากคนึกไม่ออกว่าออนไลน์เป็นแบบไหนก็คิดถึง MK ละกันครับ

บ่ายนี้ ผมกลับถึงบ้านประมาณ 4 โมงกว่า ๆ รู้สึกมีอาการมึน ๆ นิด ๆ บวกกับที่ฉลองลีโอกับเพื่อนไปขวดหนึ่ง .. :) จากนั้น ผมของีบหลับพักสักหน่อย เพราะตอนเย็น ๆ จะต้องพาเพื่อนไปรับของที่บางเขน

หลังจากที่พักไปได้สักพัหก็ตื่นขึ้นมาล้างหน้า ล้างตาเตรียมการเดินทางรอบที่สองของวันนี้

ตอนแรกผมกะว่าจะออกวงแหวนแต่มันคงไกลไปหน่อย เลยเปลี่ยนมาใช้เส้นบางกะปิ-บึงกุ่มแทน อย่างน้อยก็เลี่ยงรถติดที่หน้าเมเจอร์รัชโยธินไปบ้าง และพอดีว่าผมรับน้องคนหนึ่งมาด้วย เลยจะไปส่งเขาที่แยกลำสาลี

พอก่อนถึงแยกลำสาลี ผมส่งน้องเขาที่ป้ายรถเมล์เพื่อต่อไปที่หน้ารามฯ แต่เผอิญว่าหาช่องเสียบเข้าขวาไม่ได้ เลยต้องเลี้ยวขวาไปหน้ารามแวกลับรถ ก่อนถึงสนามกีฬา ฯ แทน แม้รถจะติด แต่เราก็ทำเวลาได้ไม่เลวนัก 5555..

จากนั้นก็เลี้ยวไปตลาดบางกะปิ เลี้ยวไปคลองจั่น เลี้ยวซ้ายไปนวมินทร์ ... แต่แล้วพอผมเจอป้ายเลี้ยวไป ม. เกษตร ผมก็เลี้ยวซ้ายไปทาง ม. เกษตร ซะงั้น แต่จริง ๆ ผมตั้งใจจะวิ่งไปจนถึงรามอินทราแล้วค่อยเลี้ยวซ้าย .. แต่ก็โอแหละ ไม่ลองไม่รู้ ?!?!

พอขับไปถึงถนนพลโยธิน ผมไม่แน่ใจว่ามันจะเลี้ยวขวาได้เพราะเห็นมีอะไรบังอยู่ แต่ไฟเขียวเลี้ยวมีนะ!! ผมเลยเลี้ยวซ้ายออกไปก่อน ค่อยหาทางกลับรถมาอีกที .. ดีว่าที่กลับอยู่ไม่ไกลจากตรงแยก ระหว่างที่ผมรอกลับรถ

ตอนที่ผมจะกลับรถ เกือบจะมีเรื่องให้เสียวอีกแล้ว เพราะมีมอเตอร์ไซต์คันวิ่งออกจากซอยทางซ้ายมือของผม เพื่อที่จะเลี้ยวขวา (กลับรถ) เหมือนกัน แต่แกไม่ยอมตีวงกว้างออกไป แต่วิ่งเข้ามาไกล้ ๆ หน้าของผม ทำให้ผมต้องเบรคกระทันหัน แต่ก็ไม่ได้เบรคแรงมาก

พอไปถึงบิ๊ก ซี สายใหม ผมก็งงเล็กน้อยเพราะเห็นมีรถเลี้ยวขวาเข้าบิ๊ก ซี แต่เพื่อนบอกเข้าบิกซีไม่ได้ อ้าวว แบบนี้ก็ต้องขับเลยไปก่อนแล้วค่อยกลับรถอีกที

เมื่อผมกลับรถมาถึงหน้าบิ๊ก ซี ก็เลี้ยวซ้ายที่วอยที่บอกเลี้ยวขวาเข้าไม่ได้ อ้าววว มันยังไงหว่า ?!?!?

ผมก็ขับรถเข้าไปในซอยข้างบิ๊ก ซี ก็สังเกตว่ามันบอกเป็นป้ายทางเข้าห้างนะ แต่ทำไมมันแคบและมีระจอดวางขวางกันจัง .. พอขับมาไกล้ ๆ ก็ต้องร้องอ๋อ เพราะแกกำลังขนของขึ้นรถปิ๊กอัพ เออ.. ใช้ทางรถให้เป็นประโยชน์จริง ๆ

พอเขาขนของออกจากทางรถ (ของผม) ผมก็วิ่งวนขวาขึ้นลานจอดรถ ซึ่งทางขึ้นจะแคบมา ต้องระวังเป็นอย่างมาก แต่ดีว่าผมเจอี่ว่างที่ชั้น 1 ที่ขึ้นมาพอดี เลยไม่ต้องวิ่งวนขึ้นไปหลายชั้นเสียเวลา เสียอารมณ์ แต่เพิ่มความกลัวตรงทางขึ้นห้างอีกต่างหาก!!

จากนั้น เราก็รอเพื่อนที่นัดไว้เอากระเป๋าเดินทางมาให้ในบิ๊ก ซี โดยอาศัยร้านซี เอ็ดเป็นที่พักพิงระหว่างรอ .. แม้จะมีแค่กระเป๋าเดียว แต่หนักมาก เขาบอกว่าประมาณ 15 กก. โห หนักเอาการเลย!!

เอาล่ะ เมื่อได้สิ่งที่ต้องการ เราก็ถึงเวลากลับบ้านแล้ว ผมออกจากหน้าบิกซีก็เลี้ยวซ้าย เข้าพลโยธิน พอมาถึงวงเวียนกะว่าจะเลี้ยวขวาเพื่อไปขึ้นทางด่วนที่วิภาวดี แต่กลับออกจากวงแหวนผิดมุม เพราะคิดว่ารถที่ตัดออกมาเป็นเลี้ยวขวาแล้ว แต่มันเป็นการออกทางตรงจากวงแหวนต่างหากตะมาณ 4 ทุ่มกว่า ๆ อาบน้ำเสร็จก็นอนทันทีเลย ไม่อยากเปิดคอมมาทำอะไร เพราะเหนื่อยมาทั้งวันแล้ววววว :)


วันพุธที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

ฮอนด้าเรียกคืนแจ๊ซ-ซิตี้กว่า6แสนคันทั่วโลกรวมทั้งไทย

เอเอฟพี - ฮอนด้า มอเตอร์ บริษัทผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่น เมื่อวันศุกร์(29) เรียกคืนรถยนต์รุ่นฟิต/แจ๊ซและซิตี้ ราว 646,000 คันที่จำหน่ายทั่วโลก สืบเนื่องจากปัญหาความขัดข้องของสวิทช์หน้าต่างไฟฟ้า

โฆษกของบริษัทเปิดเผยว่าการเรียกคืนวันนี้ ประกอบด้วยฮอนด้าแจ๊ซและซิตี้ 140,000 คันในสหรัฐฯ ส่วนที่เหลือเป็นรถที่จำหน่ายในยุโรป เอเชียและภูมิภาคอื่นทั่วโลก

ทั้งนี้ในส่วนของแจ๊ซนั้น ฮอนด้าระบุว่าจะเรียกคืนรถที่ผลิตระหว่างปี 2002 ถึง 2008 ที่จำหน่ายใน จีน บราซิล ไทย มาเลเซีย และอินเดีย

น่าจะเป็นเส้นทางกลับบ้านที่ไกลที่สุด

เย็นนี้ ผมออกจากที่ทำงานประมาณ 4.30 ซึ่งก็ช้าวันอื่นๆ นิดหน่อย แต่ออกไปไม่พ้นหน้าตึกเลย ก็รู้แล้วว่ารถติดแน่ ๆ เพราะผมใช้เวลารอกว่าจะออกจากหน้าตึก็นานพอสมควร

หลังจากที่ผมออกสู่สาทรได้ ผมก็กลับรถที่หน้าทิสโก้เพื่อเข้าสวนพลู ก็เป็นปกติเหมือนทุกครั้งที่เจอรถติด ๆ แบบนี้

พอเข้าสู่สวนพลูได้ ผมว่ามันก็แปลกทำไมรถมันยังติด ไม่เหมือนทุกครั้งเลยอ่ะ แต่ก็เข้ามาแล้วนี่นา ถอยไม่ได้แล้ว ต้องยอมรับสภาพต่อไป ..

เมื่อพ้นสวนพลู ผมขึ้นทางด่วนแล้วไปลงที่ ม. กรุงเทพ ทางด่วนวิ่งฉิวเลย มาชะลอหน่อยช่วงหน้า ม กรุงเทพ ตอนแรกผมก็จะไปลงสุขุมวิท 62 แต่เห็นรถเยอะเลยเปลี่ยนใจลงตรงนี้แหละ

พอพ้นจากทางด่วนเลี้ยวซ้ายเข้าอาจณรงค์ ผมเห็นมีรถบรรทุกติดยาวเลยที่เส้นรถไฟสายเก่า เลยกะจะไปออกสุขุมวิท 42 อ้าววว รถติดยาวออกมาถึงหน้า ม กรุงเทพเลย !! เปิด จส100 ฟังหยน่อย เขาบอกมีอุบัติเหตใต้สถานีรถไฟฟ้า BTS พระโขนง ... ทำไงดีล่ะ กลับรถเข้าสายเก่าดีกว่า ยังไงต้องเลือกเอาสักทางแล้ววววว

ผมเลือกที่จะกลับรถที่หน้าม. กรุงเทพ มารอจะเลี้ยวซ้ายเข้าสายเก่าเพราะรถเยอะเข้าไปเลยไม่ได้ เพราะน่าจะดีกว่าเส้นอื่น ๆ แต่ก็รอนานใช้ได้นะ แล้วก็เลี้ยวเข้าสายเก่าได้ .. อืมม.. ดูท่างทางจะดีขึ้น

แต่ผมสังเกตว่าวันนี้ รถเยอะมากกว่าทุกวัน ถ้ารู้แบบนี้ตั้งแต่ต้น ผมน่าจะไปลงที่ 62 เลยดีกว่านะ แต่ไม่มีสิทธิ์เลือกแล้วล่ะ

ผมวิ่งสายเก่าไปเรื่อย ๆ เห็นซอย 50 รถเยอะ ลเยตัดสินใจไม่เลี้ยวเข้าไป ลองวิ่งตรงไปทางสรรพาวุธดูว่าจะเป็นยังไงบ้าง พอวิ่งไปได้สักพัก ก็เจอป้ายบอกทางไปอกสุขุมวิท 62 แต่ก็สายไปเสียแล้วเพราะวิ่งเลยไปแล้ว ก็เมื่อกี้ผมวิ่งตามรถบรรทุกมาเลยไม่ทันได้มองว่าออกตรงนี้ได้ งั้นก็ขับเลยต่อไปจนถึงสรรพาวุธ ก็เลี้ยวซ้ายเข้าไปทางบางนา ...

เออ.. การตัดสินใจเข้ามาอีกแล้ว จะเข้าสุขุมวิทดีไหมเนี่ย? หรือว่าจะออกไปบางนาแล้ววนเข้าศรีนครินทร์ไปเลย ?!?!

ผมเลือกไปเส้นบางนาครับ เดี๋ยวจะได้เอาอัลบั้มรูปฝากเพื่อนเอากลับบ้านนอกด้วยเลย จะได้ไม่เสียเวลาขับมาในวันอื่นอีก เขาจะกลับบ้านเสาร์นี้แล้ว ..

ผมแวะเอาของไปฝากเพื่อนไว้แป๊บหนึ่งก็วิ่งอ้อมเข้าศรีนครินทร์ โอ้ โห รถติดน่าดูตรงช่วงที่มีก่อสร้างอุโมงค์ไกล้แยกอุดมสุข จากนั้นก็เรื่อยมาจนถึงหน้าซีคอน พอพ้นไปก็วิ่งแบบชิว ๆ ไม่มีอะไรน่าสนใจอีก ..

มันจะมีปัญหาอีกก็ตอนจะเลี้ยวซอยหน้าบ้าน พอผมตีไฟจะเลี้ยวเข้าแล้วล่ะ รถที่สวนเลนมาก็จอดให้เรียบร้อยแล้ว ออกตัวไปนิดอยู่กลางเวนแล้วเรียบร้อย แต่แล้วผมก็ได้ยินเสียงข้างหลัง พอหันไปมอง .. อ้าว มอไซต์โดนท้ายรถของผมอีกแล้ว

ผมเห็นมีเด็กวัยรุ่น 3 -4 ซ้อนมอไซต์กันมาคันหนึ่งอยู่ข้างหลัง ประมาณว่าจะหลบรถผมที่จะเข้าซอย แต่ไม่ทันดูไฟว่ารถกำลังจะเลี้ยวขวา เลยหลบไม่พ้น เลยมาสะกิดซะ ผมยังไม่ทันได้เปิดไปดูมันก็ขับรถหนีไปเฉยเลย แล้วไง ก็คงต้องปล่อยเขาไป อีกอย่างตอนนี้ รถของผมก็อยู่กลางถนนขวางไปอีก 3-4 เลนเลยแหละ ถือว่าทำบุญ อโหสิล่ะกัน

พอผมเข้าถึงบ้าน จอดรถเรียบร้อยแล้วก็รีบลงมาดูท้ายรถว่าโดนอะไรบ้าง .. ไม่เห็นมีอะไรเสียนี่หว่า แล้วมันโดนรถของเราตรงไหนเนี่ย อยากรู้จัง ?!?!?!?!

สรุปว่าวันนี้อาจจะเป็นวันที่ผมขับรถจากที่ทำงานเพื่อกลับบ้านเป็นระยะทางที่ไกลที่สุดแล้วมั้ง

วันอาทิตย์ที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

การจอดรถที่แกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ

เย็นวันนี้ ผมมีโอกาศได้ไปร่วมงานแต่งของเพื่อนที่โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ ที่อยู่ไกล้แยกระหว่างถนนราชดำริตัดกับถนนเพลินจิต ถ้าหากต้องขับรถไปที่โรงแรมนี้ ผมแนะนำให้เผื่อ ๆ เวลาไว้สักนิด เพราะอยู่ใจกลางเมือง รถติดเป็นเรื่องธรรมดา แต่เลี่ยงได้ก็จะดี :)

ทางเข้าโรงแรมจะมี 3 ทางด้วยกัน

    ทางแรกคือใช้ถนนเล็ก ๆ ร่วมกันกับทางเข้าห้างอัมริน พลาซ่าที่เข้ามาจากถนนเพลินจิต (สุขุมวิท) แล้วเบี่ยงขวานิด แล้วก็วิ่งลงทางเข้าของชั้นใต้ดินเพื่อเข้าโรงแรม ซึ่งพอผ่านตู้รับบัตรจอดให้เลี้ยวซ้าย แล้ววนขวาหาที่จอดได้เลย

    ทางเข้าที่สองเป็นทางเข้าที่เข้าทางถนนราชดำริ เอาไว้สำรองสำหรับคนที่จะแวะเข้าไปส่งผู้โดยสาร แต่ถ้าจะเข้าจอดก็ต้องขับเลยทะลุไปจนสุดแล้วของโรงแรมเลี้ยวซ้ายเข้าลานจอดรถ ตรงนี้ต้องระวังรถทางซ้ายมือที่ออกจากลานจอดและรถทางขวาที่จะเข้าโรงแรมด้วย

    ส่วนทางเข้าที่สามจะอยู่ก่อนจะสุดเขตของโรงแรม (ก็คือทางเข้าที่กล่าวไว้ในทางเข้าที่สองนั่นแหละครับ) ซึ่งคนส่วนใหญ่ก็จะวิ่งเข้ามาที่ทางเข้านี้ เพราะคิดว่าคงไม่ทางเข้าอีกแน่นอน ก็พยายามขับกันช้า ๆ ก็ดีเพราะคนเยอะ รถเยอะได้ในบางโอกาศ


เมื่อผ่านตู้รับจอดรถเสร็จให้ขับเข้าไปข้างใน โดยวนขวาไปเรื่อย ๆ หาที่จอดได้เลย แต่บางชั้นอาจจะมีการระเบียบการเดินรถแตกต่างกันบ้าง ทางขึ้นลงอาจจะแคบและอยู่ไกล้กันมาก จนบางทีลืมเลี้ยว ต้องถอยรถกลับก็มี อันนี้ ต้องคอยสังเกตให้ดีด้วย

ส่วนเรื่องราคาค่าจอดนั้นจะอยู่ที่ชั่วโมงละ 30 บาท ปัดเศษนาทีเป็นชั่วโมงแบบทั่วไป แต่ถ้าได้แสตมป์บัตรจอดรถ ก็จะไม่ต้องเสียค่าจอดครับ ..

วันนี้ ผมได้ที่จอดที่ชั้น B1 ไม่ไกลจากทางเข้าโรงแรมหรือวนรถให้เหนื่อย อาจจะเป็นเพราะว่าผมขับเข้ายังไม่เย็นมากหรือมาก่อนงานเขาเริ่มกัน เลยไม่ได้วนหาที่จอดลำบากเท่าไร :P





Google
 

Download unlimited stock photos!

Wikipedia

ผลการค้นหา