วันอาทิตย์ที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

เช้าไปบางปู เย็นไปบางเขน

เช้านี้ ผมขับรถออกจากบ้านตอนเช้าประมาณ 9 โมงครึ่งไปรับเพื่อนที่สนามบินไปเที่ยวที่เมืองโบราณ สมุทรปราการ

พอไปถึงสนนามบิน ผมก็จอดรอเพื่อนอยู่ชั้นผู้โดยสารขาออก แต่ยังไม่ได้วิ่งเข้ามาในหน้าอาคาร เพราะกลัวว่ายามจะมาไล่ไปซะก่อนที่เจอจะเพื่อน แล้วต้องวิ่งวนขึ้นมาใหม่อีกรอบ

ผมรออยู่ตรงนั้นไม่นานเท่าไร เพื่อนก็โทรมาบอกให้มารับได้ ตอนนี้รออยู่ข้างหน้าแล้ว ..

หลังจากที่ออกจากสนามบิน ผมใช้เส้นถนนกิ่งแก้ว ไปเทพารักษ์ เข้าศรีนครินทร์ ซึ่งตอนแรกจะวิ่งตรงแล้วเลี้ยวขวา เข้าสุขุมวิทสายเก่าอีกที แต่ดูถนนแล้วไม่ค่อยน่าไปเลย เพราะถนนแคบ ผิวขรุขระ และวิ่งเลียบคลองไปอีกต่างหาก คิดว่าใช้ศรีนครินทร์น่าดีกว่าแน่นอน และผมก็ชินกับทางเส้นนี้มากกว่าด้วย

พอผมไปถึงเมืองโบราณก็จอดรถให้เพื่อนไปซื้อตั๋วเข้าชมที่ออฟฟิซไกล้ประตูทางเข้า ..

ระหว่างที่อยู่ภายในเมืองโบราณ เราแวะชมกับถ่ายรูปกันไม่กี่ที่หรอกเพราะแดดร้อนจัด เมื่อเช้าออกจากบ้านยังคลื้มฟ้า คลื้มฝน แต่ตอนนี้ทำไมมันร้อนเปรี้ยง ๆ ซะงั้น

พอออกจากเมืองโบราณ เราไปกินข้าวเที่ยงกันที่ร้านสายลม บางแสน 2 ที่อยู่ไม่ไกลจากเมืองโบราณแต่เป็นตรงข้าม (คิดว่าไม่น่าจะเรียกเยื้อง ๆ ได้อ่ะ )

จริง ๆ ผมเคยมาร้านนี้ตั้งแต่เมื่อปีก่อนแล้ว ชอบบรรยากาศร้านนี้มาก อาหารก็อร่อยดี ที่สำคัญ สั่งอาหารเสร็จก็ไม่ต้องรอนาน เพราะเขารับออเดอร์แบบออนไลน์ หากคนึกไม่ออกว่าออนไลน์เป็นแบบไหนก็คิดถึง MK ละกันครับ

บ่ายนี้ ผมกลับถึงบ้านประมาณ 4 โมงกว่า ๆ รู้สึกมีอาการมึน ๆ นิด ๆ บวกกับที่ฉลองลีโอกับเพื่อนไปขวดหนึ่ง .. :) จากนั้น ผมของีบหลับพักสักหน่อย เพราะตอนเย็น ๆ จะต้องพาเพื่อนไปรับของที่บางเขน

หลังจากที่พักไปได้สักพัหก็ตื่นขึ้นมาล้างหน้า ล้างตาเตรียมการเดินทางรอบที่สองของวันนี้

ตอนแรกผมกะว่าจะออกวงแหวนแต่มันคงไกลไปหน่อย เลยเปลี่ยนมาใช้เส้นบางกะปิ-บึงกุ่มแทน อย่างน้อยก็เลี่ยงรถติดที่หน้าเมเจอร์รัชโยธินไปบ้าง และพอดีว่าผมรับน้องคนหนึ่งมาด้วย เลยจะไปส่งเขาที่แยกลำสาลี

พอก่อนถึงแยกลำสาลี ผมส่งน้องเขาที่ป้ายรถเมล์เพื่อต่อไปที่หน้ารามฯ แต่เผอิญว่าหาช่องเสียบเข้าขวาไม่ได้ เลยต้องเลี้ยวขวาไปหน้ารามแวกลับรถ ก่อนถึงสนามกีฬา ฯ แทน แม้รถจะติด แต่เราก็ทำเวลาได้ไม่เลวนัก 5555..

จากนั้นก็เลี้ยวไปตลาดบางกะปิ เลี้ยวไปคลองจั่น เลี้ยวซ้ายไปนวมินทร์ ... แต่แล้วพอผมเจอป้ายเลี้ยวไป ม. เกษตร ผมก็เลี้ยวซ้ายไปทาง ม. เกษตร ซะงั้น แต่จริง ๆ ผมตั้งใจจะวิ่งไปจนถึงรามอินทราแล้วค่อยเลี้ยวซ้าย .. แต่ก็โอแหละ ไม่ลองไม่รู้ ?!?!

พอขับไปถึงถนนพลโยธิน ผมไม่แน่ใจว่ามันจะเลี้ยวขวาได้เพราะเห็นมีอะไรบังอยู่ แต่ไฟเขียวเลี้ยวมีนะ!! ผมเลยเลี้ยวซ้ายออกไปก่อน ค่อยหาทางกลับรถมาอีกที .. ดีว่าที่กลับอยู่ไม่ไกลจากตรงแยก ระหว่างที่ผมรอกลับรถ

ตอนที่ผมจะกลับรถ เกือบจะมีเรื่องให้เสียวอีกแล้ว เพราะมีมอเตอร์ไซต์คันวิ่งออกจากซอยทางซ้ายมือของผม เพื่อที่จะเลี้ยวขวา (กลับรถ) เหมือนกัน แต่แกไม่ยอมตีวงกว้างออกไป แต่วิ่งเข้ามาไกล้ ๆ หน้าของผม ทำให้ผมต้องเบรคกระทันหัน แต่ก็ไม่ได้เบรคแรงมาก

พอไปถึงบิ๊ก ซี สายใหม ผมก็งงเล็กน้อยเพราะเห็นมีรถเลี้ยวขวาเข้าบิ๊ก ซี แต่เพื่อนบอกเข้าบิกซีไม่ได้ อ้าวว แบบนี้ก็ต้องขับเลยไปก่อนแล้วค่อยกลับรถอีกที

เมื่อผมกลับรถมาถึงหน้าบิ๊ก ซี ก็เลี้ยวซ้ายที่วอยที่บอกเลี้ยวขวาเข้าไม่ได้ อ้าววว มันยังไงหว่า ?!?!?

ผมก็ขับรถเข้าไปในซอยข้างบิ๊ก ซี ก็สังเกตว่ามันบอกเป็นป้ายทางเข้าห้างนะ แต่ทำไมมันแคบและมีระจอดวางขวางกันจัง .. พอขับมาไกล้ ๆ ก็ต้องร้องอ๋อ เพราะแกกำลังขนของขึ้นรถปิ๊กอัพ เออ.. ใช้ทางรถให้เป็นประโยชน์จริง ๆ

พอเขาขนของออกจากทางรถ (ของผม) ผมก็วิ่งวนขวาขึ้นลานจอดรถ ซึ่งทางขึ้นจะแคบมา ต้องระวังเป็นอย่างมาก แต่ดีว่าผมเจอี่ว่างที่ชั้น 1 ที่ขึ้นมาพอดี เลยไม่ต้องวิ่งวนขึ้นไปหลายชั้นเสียเวลา เสียอารมณ์ แต่เพิ่มความกลัวตรงทางขึ้นห้างอีกต่างหาก!!

จากนั้น เราก็รอเพื่อนที่นัดไว้เอากระเป๋าเดินทางมาให้ในบิ๊ก ซี โดยอาศัยร้านซี เอ็ดเป็นที่พักพิงระหว่างรอ .. แม้จะมีแค่กระเป๋าเดียว แต่หนักมาก เขาบอกว่าประมาณ 15 กก. โห หนักเอาการเลย!!

เอาล่ะ เมื่อได้สิ่งที่ต้องการ เราก็ถึงเวลากลับบ้านแล้ว ผมออกจากหน้าบิกซีก็เลี้ยวซ้าย เข้าพลโยธิน พอมาถึงวงเวียนกะว่าจะเลี้ยวขวาเพื่อไปขึ้นทางด่วนที่วิภาวดี แต่กลับออกจากวงแหวนผิดมุม เพราะคิดว่ารถที่ตัดออกมาเป็นเลี้ยวขวาแล้ว แต่มันเป็นการออกทางตรงจากวงแหวนต่างหากตะมาณ 4 ทุ่มกว่า ๆ อาบน้ำเสร็จก็นอนทันทีเลย ไม่อยากเปิดคอมมาทำอะไร เพราะเหนื่อยมาทั้งวันแล้ววววว :)


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น


Google
 

Download unlimited stock photos!

Wikipedia

ผลการค้นหา