วันพฤหัสบดีที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2551

ชนเสาตอนเข้าจอด

บ่ายนี้ เราก็ลางานพาคุณแม่ไปหาหมอที่คลีนิค แถวสวนหลวง ซึ่งตอนเข้าจอดรอบแรกที่ไปส่งไว้ที่คลีนิคก็ดูดี พอออกไปซื้อของที่เสรี ฯ ประมาณชั่วโมงกว่า ก็กลับมาที่คลีนิคเหมือนเดิม


เราก็วิ่งเข้าไปที่ลานจอดเหมือนรอบแรก แต่คราวนี้รู้สึกว่าจะเสียบหัวเข้าไปไม่ลึกมาก พอถอยหลังจะเข้าซอง ก็หมุนล้อไม่หมด เลยทำให้ ข้างหลังไปชนกับเสาเข้า ได้ยินเสียงกึก กึก .. เอ้ย ไม่ได้การเเล้ว ชนซะแล้วละครับ โชคดีที่พอชนปุ๊บ เหยียบเบรคทัน ไม่งั้นเละกว่านั้นเป็นแน่

จอดเสร็จก็รีบกรูไปดูท้ายรถ โอ.. ยังพอให้อภัยได้ เพราะไม่ได้เป็นรอยมาก ถึงแม้ว่าเสาจะบิ่นไปจนเนื้อเสาหลุดติดอยู่ที่กระโปรงท้ายกับสะเกิร์ตหลัง

วันอังคารที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2551

เกือบจะชนกับแทกซี่

เช้านี้ ช่วงถนน 4 เลนหน้าบ่อนไก่ เขตคลองเตย เราก็ขับอยู่เลน3 กลางถนนแหละแต่ใกล้จถึงทางเลี้ยวซ้ายเข้าสาทร เลยตีไฟจะออกเลนข้างเลนรถเมล์ พอคล่อมเลนไปได้นิดเดียว รถแทกซี่ที่วิ่งตามหลังรถเมล์ก็ออกมา เกือบจะชนกับรถของเรา

จริง ๆ แล้วหน้ารถเราไปใกลจากเขาแล้วตีเขายังจะพุ่งออกมา เราก็ชะลอรถหน่อยหนึ่ง กะจะดูอาการก่อนแล้วค่อยขยับ เขาก็หยุด อ่ะ โอเค งั้นเราออกตัวเลยละกัน เปล่าครับ เขายังจะพุ่งออกมาอีก ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเขาไม่ยอมให้เราออกตัวไปก่อน เพราะตัวรถเราก็ผ่านรถของเขาไปได้เกือบทั้งคันแล้ว

จากนั้นค่อยขับออกมาจากเลนนั้น เพราะรถเมล์เขาไม่ซิ่งออกมาจากเลนนั้นแน่นอน สุดท้าย เราเปลี่ยนใจไมเข้าตรงนั้น ขับเลยไปข้างหน้าแล้วค่อยตีไฟเข้าเลนซ้ายอีกที ง่ายกว่ากันตั้งเยอะ :)

วันอังคารที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2551

เจอด่านตรวจรถที่โคราช

บ่ายนิด ๆ เมื่อวานนี้ ตอนขากลับจากต่างจังหวัด จะเข้ากรุงเทพฯ ช่วงเลี่ยงเมืองโคราช มีตำรวจตั้งด่านตรวจรถอยู่ ก็ไม่รู้ว่าอะไรเหมือนกัน เขาก็เรียกให้เราจอด แล้วคุณตำรวจนายหนึ่งเดินมาขอดูใบขับขี่ เสร็จแล้วแกก้ขอดูท้ายรถ อ่ะ...ไม่มีปัญหาครับ จัดให้ ... ผมก็ลงจากรถ ไปเปิดท้ายให้เขาดู พอเปิดออกมาก็จัดแจงชี้บอกว่านี่ คืออะไร ซึ่งจริง ๆ แล้วไม่จำเป็นต้องบอกก็ได้ อยากทราบมั้ยว่าข้างหลังรถของผมมีอะไรมั่ง 555

พอผมเปิดประตูหลังรถออกมาเขาก็คงขำอยู่บ้างล่ะ เพราะมันเต็มแบบสุด ๆ มุมทางขวาก็มีข้าวสารใส่ถุงพลาสติก สัก 10 กิโลได้มั่ง ข้างๆ กันก็มีกล้วย 2-3 หวี และก็มีมะพร้าวที่ปลอกแล้ว 2-3 ลูกที่เพื่อนเขาเอาติดรถมาด้วย ส่วนตรงกลางผมวางกระเป๋าเดินทางสีแดงคั่นไว้ ลึกเข้าไปหน่อยก็จะเป็นกรอบรูปขนาดใหญ่ 3-4 อันวางไว้ในแนวตั้งชิดกันเบาะด้านหลัง ซ้ายสุดก็มีชุดเจ้าสาวที่เพื่อนเขาฝากมาด้วย พร้อมรองเท้าของแฟนอีก 2-3 คู่

ผมก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าเขาจะตรวจอะไรอีก แต่ก็คุยกันได้สักพัก เขาก็บอกว่าอย่าขับกลางคืนนะเพราะยังเป็นป้ายแดง อาจโดนจับได้ อันนี้ผมทราบดีอยู่แล้วขอรับท่าน ...

วันอังคารที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2551

เบรคกลางแยกไฟแดง

เย็นนี้ออกเร็วกว่าเมื่อวาน คือออกจากออฟฟิซประมาณ 5 โมงเย็นนิด เพราะมีเพื่อนจะไปลงที่พระราม 4 ด้วยสองคน ใจจริงก็อยากออกตั้งแต่ 4 โมงครึ่งแล้ว ก็เมื่อเช้ามาแบบเช้ามากกก.. แต่ก็ยังดี ไม่ค่อยมีผลมาก รถติดช่วงจากออกจากออฟิซ และเข้าเลี้ยวขวาเข้าพระราม 4 แต่สิ่งที่ไม่ค่อยชอบก็ตรงรถวิ่งกันไม่เป็นระเบียบ แบบอยากเปลี่ยนก็เปลี่ยนเอาดื้อ ๆ รถเมล์คร่อมเลนมายังบีบแตรไล่หลังอีก ไม่รู้จะรีบไปไหน

จากนั้นก็ที่เดิม ตรงแยกจะเลี้ยวขวาไปอ่อนนุช น่าจะเรียกว่าแยกพระโขนงนะ มีเหตุต้องเบรคแบบไม่ต้องยั้งแลย ถ้ากระพริบตานิดมีหวังพังกันกลางถนน เราก็ขับอยู่ตรงเลนกลางดีๆ แหละ ตอนนั้นมีรถเข้ามาไหนไม่รู้ เสียบเข้าเลนขวา ทุกคันที่ซิ่งออกจากไฟแดงก็ต้องหยุดสิครับ คุณตำรวจที่ยืนตรงนั้นก็เรียกให้รถคันนั้นจอด แล้วไม่ได้ดูต่ออีกหรอกเพราะต้องรีบออกจากแยกก่อนที่รถเมล์จะตัดเข้าเลนกลางก่อนเรา เห็นพี่แกชิดทางซ้ายมานานแล้ว เฮ้ย ...



วันจันทร์ที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2551

มันเครียด ๆ อ่ะ

เย็นนี้ขับรถกลับบ้านด้วยอารมณ์ที่ไม่ค่อยดีนัก มันเครียด ๆ ยังไงไม่รู้สิ ไม่ใช่เรื่องงานหรอก เพราะเราก็ทำได้เยอะและไม่มีอะไรต้องห่วงมากเลย จริง ๆ มันก็เริ่มตั้งแต่ขับรถลงมาจากลานจอดรถ จนออกสาทร เหมือนว่ามันรีบ เพราะยามที่ประตูก็โบกให้เราออกให้ได้ก่อน ดูเหมือนว่ามีอะไรมาจี้ต่อมเครียดตลอดเวลา แม้แต่ช่วงทางตรงรอไฟแดงที่แยกสาทร - พระราม 4 ก็มึน ๆ ยอมรับว่ามีอาการไม่ค่อยดีนักขณะขับรถ ดีนะเย็นวานนี้ไม่ค่อยมีรถมากอย่างที่คิด เลยๆม่มีอะไรมากวนอารมณ์มาก

แต่สุดท้ายก็มีที่รอไฟแดงแยกพระโขนง ที่เดิมที่ไม่เคยชอบเลย เราก็จอดอยู่ธรรมดา ทางซ้ายก็เป็นรถเมล์เรียงกัน 3-4 คัน รถธรรมดาคั่นบ้าง ส่วนทางขวาก็เลนในวิ่งเร็ว แต่ทั้งหมดก็จอดกันแหละ นั่งคิดอะไรเพลินๆ อยู่ ก็ได้ยินเสียงตึ่กตั่กที่ท้ายรถ เอาแล้ว มอไซต์ สอยรถเราเข้าแล้ว ใจหวั่น ๆ เหมือนกลัวเป็นแผลใหญ่แล้วมันจะเห็นชัดแต่ใกล จะลงไปดูเลยก็กลัวจะเป็นไฟเขียวก่อน งั้นเอาไว้ดูที่บ้านเลยละก๊านนน :O

นึกว่าจะต้องเข็นรถแล้ว

เช้านี้ต้องคิดหนักอีกแล้ว เพราะเมื่อวานไม่ได้เอารถออกมาจากที่จอดในช่องแคบ พอจะออกก็ต้องผลักรถ 2- 3 คันไปข้างหลังแล้วค่อย ๆ ทะแยงออกมา เราก็เลยทำโน้นทำนี่นิดหน่อย รอเวลาสักนิด น่าจะมีคนมาเอารถออกบ้าง .. และก็เป็นไปตามคาด ประมาณ 7 โมงรถแจ๊ซสีดำก็ลงไปที่รถ เราเลยโอกาศเดินลงดูว่าจะทำอย่างไรบ้าง เผื่อได้ช่วยกันเข็นปิกอัพที่จอดคันนอกสุด พอลงมาถึงก็เห็นว่า เจ้าของรถปิกอัพกำลังจะขับรถของเขาเองออกไปจอดข้างนอกแล้ว เฮ้ย.. โล่งอกไปที นึกวาจะต้องเข็นรถซะแล้ว เพราะข้างหลังรถปิกอัพมีข้าวของเยอะน่าดู :P

พอออกจากซอยได้ แวะปั้มเชลล์ไกล้บ้าน ขอเติมน้ำมันสักครึ่งถังดีกว่า เผื่อรถติดมากแล้วน้ำมันหมดก่อนถึงปั้ม แบบไม่อยากเสี่ยงให้ไฟน้ำมันขึ้นเตือน แล้วหมดเอาดื้อ ๆ กลางทาง ไม่อยากเข็นรถใหม่กลางถนน ให้คนดู ขอกันไว้ก่อนไม่เสียหลาย

ส่วนตัวว่าวันนี้เราเองก็รู้สึกว่าจะซึม ๆ ยังไงไม่รู้สิ รู้สึกว่ารถออกตัวไม่ค่อยดีเลย คนขับเองยังไม่ค่อยสดชื่นเหมือนทุกวัน คือเวลาเยียบเบรคหรือเร่งเครื่อง ก็เหมือนกับว่าเพิ่งจะหัดขับอย่างงั้นแหละ จริง ๆ อาจจะเป็นเพราะวันนี้รถเยอะ เหยียบคันเร่งได้ไม่เต็มสักที (อย่างไรก็ตามคาดว่าน่าเป็นผลมาจากเมื่อวานที่ดื่มเยอะไปหน่อย :)

กว่าจะถึงที่ทำงานก็ประมาณ 8.30 น. ซึ่งแน่นอนว่าถ้ามาถึงเวลานี้ ไม่มีที่จอดชั้น P4 อยู่แล้ว ก็ต้องขับวนขึ้นไปจอดที่ชั้น P5 แทน ก็ไม่ค่อยมีปัญหาอะไรหรอก ทุกอย่างก็ราบลื่นดีเสมอ ถ้าถึงลาดจอดรถแล้ว แม้ว่าบางทีจะพวกที่ชอบจอดตามไหล่ทางเดินชั้น 2-3 แล้วทำไห้รถเข้าออกช้า ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นขาจรมาจอดชั่วคราว ประมาณรับ-ส่งเจ้านาย อยากจอดก็จอดอ่ะ ...


Google
 

Download unlimited stock photos!

Wikipedia

ผลการค้นหา