วันพุธที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2551

เข็มไมล์ก่อนเดินทางช่วงปีใหม่

ปีใหม่แล้วนะครับ ปีหนึ่ง ๆ ผ่านไปรวดเร็วจริง ๆ ผมก็ถือโอกาศอวยพรให้ทุก ๆ คน มีความสุขเยอะ ๆ มีสุขภาพที่แข็งแรง ขอให้สมหวังสิ่งใดก็ให้สมปรารถนา และอย่าลืมว่าตั้งใจทำดีเข้าไว้ สักวันต้องมีผลดีกับเราเองครับ

เอาล่ะ ขอวกกลับมาเรื่องของฮอนด้าแจ๊ซตัวโปรดของผมล่ะ

ผมก็มีธุระต้องออกต่างจังหวัดเหมือนกัน โดยผมออกเดินทางจากกรุงเทพ ตอนเช้าตรู่ของวันที่ 31 จริง ๆ ผมตื่นมาตั้งแต่ตี 3 กว่าแล้ว เพราะนอนไม่หลับ คนเดินกันวุ่นวายไปหมด รถมาจอดรับคนบ้าง ห้องนั้นออกบ้าง ห้องนี้ออกบ้าง ไม่ไหวนอนต่อก็ไม่หลับอยู่ดี เลยลุกขึ้นมาอาบน้ำออกไปเลยดีกว่า

ถ้าออกต่างจังหวัดช่วงเทศกาลเมื่อไหร่ ก็เป็นที่รู้กันว่ารถติดแน่ ๆ แต่ใครจะมีวิธีหลบหลีกไปไหนก็แล้วคนไป สำหรับผม ขอเลือกเอาแบบไปไห้ได้ ไกล้ไกลไม่เป็นไร ไม่ใช่ค่อยคลานไป ประมาณ 1 กิโล แต่ใช้เวลาเป็นชั่วโมง

ตี 4 นิด ก็ได้เวลาที่จะต้องออกเดินทางกันแล้ว เพราะต้องไปรับน้องอีกคนที่คู้บอน พอสตาร์ทรถเรียบร้อยแล้ว ผมนึกได้ว่าต้องดูเข็มไมล์ก่อน อืมมม เลขสวยครับ 20009 กิโล งั้นก็เลยใช้มือถือถ่ายรูปไว้ก่อนดีกว่า พร้อมตั้งระยะทางสำหรับการเดินทางปีใหม่ ตามปกติผมก็จะตั้งเข็มไมล์ใหม่เสมอ Trip A สำหรับการเดินทาง ส่วน Trip B ก็จะเอาไว้เช็คระยะทางเวลาเติมน้ำมัน เอาไว้ดูว่าเติมน้ำมันครั้งหนึ่ง ๆ วิ่งได้กี่กิโล ดูวิธีทำได้ที่ตอนท้ายของความครับ

พอรับเพื่อนขึ้นรถมาได้ก็เข้าวงแหวนตะวันออก .. แต่แม่เจ้าโว้ย เลี้ยวซ้ายเข้าวงแหวนปุ๊บเจอรถติดปั๊บ แล้วอย่างจะไปถึงไหนมั้ยเนี่ย ทำไมมันติดตั้งแต่ยังไม่ไปไหนเลย ผมกะว่าออกตี 5 แล้วไปสว่างที่สระบุรี แต่มันคงเป็นไปไม่ได้ซะแล้ว หลังจากที่ค่อยๆ คลานมาเรื่อย ๆ จนรู้สาเหตว่าทำไม ก็มีรถ 2-3 คันชนท้ายกัน แค่นั้นแหละ พอผ่านไปก็ไม่มีอะไร

เหลือบดูนาฬิกา ประมาณเกือบ 6 โมงเช้า ถึงบางปะอินพอดี นึกว่าจะไม่มีรถติดอีกแล้ว พอเลี้ยวลงพหลโยธินเท่านั้นแหละ เห็นรถ วิ่งกันเอื่อย ๆ รถเยอะจริง ๆ รู้เลยว่าติดแน่ ทำอะไรไม่ได้แล้ว ขับต่อไปเรือย ๆ พอสระบุรีค่อยฉีกออกไปทางลพบุรีละกันไกลหน่อยแต่รถไม่ติดมาก วิ่งสัก 70 - 90 ก็ยังดีกว่านิ่งสนิท จริงมั้ยครับ

ข้อความนี้ผมขอปิดด้วยวิธีการตั้งเข็มไมล์เวลาเดินทางล่ะกันนะ

สำหรับฮอนด้าแจ๊ซที่ผมใช้อยู่ วิธีตั้งเข็มไมล์ก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไรครับ หลังจากที่สตาร์ทเครื่องยนต์ ก่อนออกเดินทาง ให้กดปุ่มที่ด้านบนของหน้าปัด สังเกตว่าก่อนกดปุ่ม ที่หน้าจอ lcd ที่บอกระยะทางจะเป็นเลขปัจจุบัน ให้กดปุ่มนั้นเป็นจังหวะไป 1-2 ครั้ง ตัวเลขจะเปลี่ยนไปและมีตัวอักษรกำกับว่า Trip A, Trip B ตามจังหวะการกดปุ่ม ถ้าต้องการเลือกใช้ Trip A ก็ให้ค้างอยู่ที่หน้าของ Trip A ก่อน จากนั้นให้กดปุ่มค้างไว้จนตัวเลขเปลี่ยนเลขศูนย์แล้วค่อยปล่อย ถ้าต้องการเลือกใช้ Trip B ก็ทำเช่นเดียวกันครับ

แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น ตอนขากลับ ขณะที่เติมน้ำมันเสร็จช่วงประมาณโนนสูง ผมกำลังจะตั้งเข็มไมล์สำหรับวัดระยะทางของการเติมน้ำมัน แต่ผมสังเกตว่าตัวเลข Trip A มันเปลี่ยนไปเริ่มต้นใหม่ อะไรเนี่ย !?!?! งงจริง ๆ มันเป็นไปได้ยังไง ผมก็มองๆ มาตลอดว่าตอนนี้วิ่งไปแล้วกี่กิโล ล่าสุดน่าจะประมาณ 1100 หรือ 1200 กว่า ๆ แล้วตกลงว่ามันไปได้สูงสุดกี่กิโลอ่ะ แต่เอาเฮอะ ยังไงเราก็มีรูปถ่ายตอนออกก่อนเดินทางแล้ว ดูสิว่ากลับถึงบ้านมันจะสักกี่กิโลกันแน่ !!!!

วันอาทิตย์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2551

มีเรื่องขำขำมาเล่า

วันนี้ ผมมีธุระต้องไปรับของฝากให้คนที่บ้านต่างจังหวัดจากพี่ชายที่ห้วยขวาง ผมก็ออกจากห้องประมาณ 10 โมงเพราะมีนัดกับหมอที่วิภาราม ซึ่งกว่าจะเสร็จก็ประมาณ 11 โมงกว่า ๆ มีช่วงหนึ่งตรงไปไฟแดงแยก อสมท. ผมก็กำลังจะเปลี่ยนเข้าเลนเพื่อเตรียมเลี้ยวขวาจะเข้ารัชดา แล้วก็มีรถคันหนึ่งบีบแต่ใส่ทางขวา อะไรก็เมื่อกี้ไม่เห็นสักคัน

จริง ๆ รถเราข้างหน้ามันจะเข้าอยู่แล้ว พ้นไปไกลแล้วละ แล้วคุณซิ่งมาจากไหนอ่ะ ก็เลยลองทำเล่นๆ ใส่สักหน่อยประมาณว่าจะเบียดเข้าให้ได้อ่ะ พอดีมีรถแทกซี่อยู่ข้างหน้า ถึงกดคันเร่งเข้าไปก็ไม่พ้นอยู่ดี เลยฉะแว๊บไม่เข้าเลนนั้น ดูสิว่าจะซิ่งหนีเราป่าว .. ป่าวครับ เขายังตามมาและมาจอดรอที่แยกจะเข้ารัชดาอีก อยู่ข้างหลังเรานี่เอง เออ.. ถ้ารีบทำไมต้องมากรอข้างหลังเราด้วย ..

ยังครับ ยังไม่จบ .. พอเลี้ยวเข้ารัชดา ผมก็นึกว่าเขาจะเข้าห้างฟอร์จูน หรนือไม่ก็คาร์ฟูร์ .. ไม่ครับ เขายังตามผมมาอีก แบบกระชั้นชิดเลยอ่ะ เอ.. อะไรอีกละเนี่ย .. เขาจะตามเราไปอีกนานมั้ยเนี่ย เบื่อมากเวลามีรถมาตามจี้ไปนาน ๆ อ่ะ

พอเลยแยกห้วยขวางผมก็ถึงที่หมายก่อนก็เลยไม่สนใจอีกแล้ว นึกว่าจะตามมาอีก.. เฮ้ย.. ถึงสักที แอบดีใจลึก ๆ ว่าอย่าตามมานะ ไม่งั้นเป็นเรื่องถ้าเข้าซอยแล้วเข้าจอดที่ไกล้กัน เออ.. แล้วเราจะทำไงหว่า :P


เอาล่ะ บ่นเรื่องเครียด ๆ มาแล้ว คราวนี้ ขอพูดเรื่องขำ ๆ ของตัวผมเองตอนขากลับ ผมก็เห็นว่าเส้นจากคาร์ฟูร์ไปพระราม 9 รถมันเยอะ แอบคิดว่าระน่าจะติด เลยเลี้ยวซ้ายออกไปศูนย์วัฒนธรรม วิ่งเรื่อย ๆ บนถนนเทีมร่วมมิตร ก็ดีนะครับ รถนี่โล่งไปเลย แล้วเลี้ยวขวาตรงแยกใกล้ ๆ สยามเนรมิต จากนั้นพอผ่านอู่พักรถเมล์ผมก็เลี้ยวขวาอีกรอบ !!! ใช่แล้วครับ ตรงนี้ผมต้องเลี้ยวซ้ายเพื่อจะออกพระราม 9 อาารมณ์ไหนไม่ทราบได้ ผมเลี้ยวขวาตามรถคันข้างหน้าซะงั้น!

มาถึงขั้นนี้แล้วทำอะไรไม่ได้แล้ว รถวิ่งทางเดียวด้วย ทำได้อย่างเดียวก็วิ่งไปจนถึงสามแยกคาร์ฟูร์อีกรอบ วนผ่านไปทางศูนย์วัฒธรรมอีกรอบ !! และคราวนี้พอถึงแยกผ่านหน้าสยามเนรมิตได้ผมก็เลี้ยวขวา แล้วก็ชิดซ้ายเลยไม่ลืมแน่ ๆ

จริง ๆ ผมว่าผมน่าจะชินกับเส้นนี้มากเลยนะ เพราะรถเมล์สาย 206 ก็ผ่านมาทางนี้ พักรถที่อู่นี้ตลอด แล้วทำไม๊ ทำไมมันเป็นแบบนี้ไปได้... งง!!

แผนที่

วันศุกร์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2551

เสียอารมณ์กับรถเมล์

ตอนแรกก็กะจะเขียนข้อความเดียวกัน แต่รู้สึกว่าอันก่อนมันเขียนแบบจบไปแล้ว เลยขอเริ่มเรื่องตอนเย็นใหม่อีกทีละกัน ..

พอตอนเย็นผมก็ออกจากออฟฟิซเร็วกว่าปกตินิดหนึ่ง ประมาณว่า 4 โมงครึ่งก็ออกแล้ว เพื่อจะไปรับรถที่ศูนย์ ฯ อีกอย่างถ้ามีเวลาเยอะก็จะขึ้นรถเมล์แทนเดินไปขึ้น BTS แบบมันต้องเดินไกลอ่ะ

ผมก็รอรถเมล์ที่ป้ายหน้าออฟฟิซสัก 5 - 10 นาทีได้รถ 116 ก็มาพอดี ไม่เลวอย่างที่คิด แม้รถจะเยอะก็แต่รถเมล์ซิ่งได้ตลอด

พอลงรถเมล์ที่อ่อนนุช ผมก็เดินไปรอรถ ปอ. 519 ไม่อยากขึ้นรถสองแถว เพราะต้องไปต่อรถที่แยกศรีนุชไปศูนย์อยู่ดี.. เชื่อมั้ยครับ ผมรออยู่เป็นชั่วโมง ไม่เห็น ปอ. 519 มาสักคัน รอแล้วก็รออีก ยังไม่มีวี่แววมาเลย จนจะ 6 โมง ผมว่าคงไม่ได้การแน่ งั้นขึ้นรถสองแถวแล้วไปต่อ 207 หรืออะไรก็ได้จากแยกศรีนุช รถเมล์ผ่านหมดแหละ

แปลกนะ แบบอยากขึ้นรถ ปอ. สายนี้ พอตอนผมขับรถเห็นวิ่งกันเยอะ ๆ แต่พอจะเรียกใช้งาน ไม่มีมาสักคัน เออ.. เสียอารมณ์อ่ะ...

เช็คสุขภาพรถก่อนเดินทาง

หลังจากที่ผมโทรไปทางศูน์ฮอนด้านครินทร์เมื่อ 2 วันก่อน เพื่อที่จะเอารถเข้าไปตรวจเช็คสภาพก่อนเดินทางปีใหม่นี้ ซึ่งตอนแรกผมกะว่าจะเอาเข้าไปวันเสาร์หรืออาทิตย์แทน เพราะจะได้ไม่ต้องไปทำงานสาย แต่พนักงานเขาบอกว่าตอนนี้มาได้เฉพาะวันธรรมดาเท่านั้น วันหยุดเต็มหมดแล้วค่ะ ผมก็เลยงั้นก็ขอนัดวันศุกร์แทนล่ะกัน

วันนี้เลยถือโอกาศตื่นสายหน่อย ต้มน้ำร้อน ขอชงกาแฟดื่มสักแก้วก่อน จากนั้นก็อาบน้ำแต่งตัวเสร็จสรรพ 7 โมงนิดๆ ก็พร้อมออกนอกบ้าน ผมใช้เวลาเดินทางไม่นาน หรอกเพราะช่วงนี้รถไม่ค่อยมีเท่าไร ไม่แน่ว่ามันยังเช้าอยู่หรือว่าคนกลับบ้านกันหมด

พอเข้าไปก็กดบัตรคิว และนั่งยังไม่นาน น้องที่ทำเรื่องประกันก็บอกว่าถามว่าจะทำอะไร ถามตอบไป สุดท้ายเรากดบัตรคิวผิดช่อง น้องเขาก็เลยเดินมากดให้ใหม่ ... เราก็ต้องรออีกรอบ .. ว้า น่าเบื่อจัง อุตส่าห์มาเช้าแล้ว กว่จะเสร็จจากศูนย์ฯ ก็เกือบ 8 โมง เลยเดินออกจากศูนย์ ฯ ไปขึ้นรถเมล์ไปต่อรถไฟฟ้าที่เพชรบุรี และหวังว่ารถคงไม่ติดเหมือนคราวที่แล้วนะ :)

โชคดตามที่คาดไว้ รถไม่ติดมาก แบบไปเรื่อย ๆ ติดไฟแดงตามจังหวะไฟเท่านั้น กว่าจะถึงรถไฟฟ้าก็ 9 โมงกว่าเหมือนกันนะ พอลงจากรถเมล์ก็รีบวิ่งไปรถไฟฟ้าต่ออีกที อันนี้ ไม่นานจริง ๆ

พอออกจากรถไฟฟ้าก็ซื้อซาลาเปากับปาท่องโก๋ชุดหนึ่ง รู้สึกหิว ๆ และไม่ได้ซื้อของกินแถวนี้นานแล้ว ก็ตั้งแต่เริ่มขับรถมาทำงานโน้นแหละ :P

สรุปว่าใช้เวลาประมาณชั่วโมงกว่าเหมือนกันนะ ทั้งๆ ที่ไม่น่าจะถึงได้ แต่ก็ไม่เป็นไรหรอก ช่วงเทศกาลอ่ะ :P

วันพฤหัสบดีที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2551

ลองไปออกที่สุขุมวิท 50

วันนี้ ออกจากออฟฟิซเร็วประมาณ 4.50 รถก็ยังเยอะเหมือนทุกวัน กว่าจะผ่านแยกตลาดคลองเตยก็ใช้เวลานิดหนึ่ง

พอถึงช่วงพระราม 4 ก็วิ่งไปเรื่อย ๆ แต่รถก็เยอะดีนะ ชินเสียแล้ว

แต่พอถึงแยกกล้วยน้ำไท แทนที่จะเลี้ยวซ้ายเพื่อเข้าสุขุมวิท 42 เราลองเลี้ยวขวา ไปทางรถไปสายเก่าดูว่าจะเป็นยังไงมั่ง เพราะไม่เคยเข้าเลย

พอเลี้ยวเข้าไปเท่านั้นแหละ ก็มีรถปิ๊กอัพคันหนึ่งขับจี้ตูดมา ทั้งบีบแตรใส่ ตีไปกระพริบมา เอออ .. อะไรว่ะ เลนขวาก็โล่ง จะมาวิ่งเลนกลางกะเราทำไม แต่พอถึงแยกใต้ทางด่วน ก็ไม่รู้เขาหายไปไหนแล้ว ไม่รู้ว่าเลี้ยวซ้ายแซงเราไปหรือว่าเลี้ยวซิ่งไปแล้ว แต่เอาเหอะ ไม่สนใจหรอกพวกแบบนี้ เกิดอะไรขึ้นมามันไม่คุ้มกันหรอก ..


สังเกตว่าตั้งแต่เลี้ยวขวาออกจากพระราม 4 ถนนเส้นนี้ไม่ดีเอาเสียเลย มีช่องระบายน้ำอยู่กลางถนน พอเลี้ยวซ้ายที่ใต้ทางด่วน ถนนก็ประมาณว่าวิ่งตามต่างจังหวัดดี ๆ นี่เอง พื้นถนนไม่เรียบ ไหล่ทางสังเกตยาก และที่หนักกว่านั้น พอเลี้ยวซ้ายตรงสามแยกหลังจากวัดสะพาน ขอบอกว่าถนนแคบมาก มอเตอร์ไซต์ก็จอดจะกินเลนมาอีก โอ .. ขับยากมาก ดีที่ยังไม่มืดมาก เลยรู้สึกโล่งหน่อย ผมเลยขอขับแบบช้า ๆ ไปเลยดีกว่า เพราะมอไซต์ไม่เคยอยู่นิ่งตรงเลนของเขาเลย ชอบหลุดมาตลอด ขืนซิ่งไปผมรถพังก่อนจะชนอีก ไม่รู้ขับกันได้ไง

พอถึงปากซอย มีเรื่องสียวให้ได้ชมกันอีก เก๋งสีขาวกับ benz หรือ bm นี่แหละจะชนกัน ก็คนหนึ่งจะออกจากโลตัส ส่วนอีกจะเข้า แต่ทั้งสองคันก็ซิ่งพอ ๆ กัน ถ้าชนกันก็มันส์ครับ แต่อย่าเลย ยอม ๆ กันหน่อยเหอะ เสียเวลานิดเดียว เดี๋ยวก็ได้เข้าแล้ว ดีกว่ามาเสียเวลารอประกันฯ กับตำรวจมาต่อรองว่าใครผิด ใครถูกเพื่อเคลมอุบัติเหตุ

ผมมาเสียเวลาอีกทีที่ตรงรอกลับรถใต้สะพานพระโขนง มีรถทัวร์คัน รถตู้ และรถสองแถวแซกจะเข้ากันใต้สะพานเยอะแยะไปหมด แต่ทำอะไรไม่ได้ ต้องค่อยคลานเข้าไปกลับรถให้ได้ ไม่มีทางเลือกแล้ว

พอกลับรถออกมาได้ทุกอย่างก็วิ่งไปได้เรื่อย ๆ ไม่มีสะดุด รถเส้นอ่อนนุชวันนี้โล่งดีมากกว่าทุกวัน เอ .. หรือว่าเราออกมาเร็ว ถึงห้องประมาณ เกือบ 6 โมงพอดี :)

เริ่ม 30 ธันวานี้ กล้องตามสี่แยก

เรียน ทุกท่าน เพื่อทราบ

สี่แยกที่มีกล้องจับ โดยจะมี การจับ3 กรณี
1. ผ่าสัญญานไฟแดง นอกจากนี้พวกที่ฝ่าไฟเหลืองก็มีโทษเช่นเดียว! กับฝ่าไฟแดง แต่จะไม่ตัดแต้ม
2. จอดติดสัญญานไฟแดงทับเส้นขาวด้านหน้า
3. จอดรถติดสัญานไฟคล่อมช่องทาง (คล่อมเส้นขาว)

วันที่เริ่มต้นใช้ตั้งแต่วันที่ 30 ธ.ค 51 ไฟแดงที่มีกล้องมีดังต่อไปนี้
1.แยกรัชดาฯ - ลาดพร้าว 2.แยกบ้านม้า 3.แยคลองตัน 4.แยกอโศกเพชร 5.แยกวิทยุ-เพลินจิต 6.แยกซังฮี้ 7.แยกพญาไท 8.แยกโชคชัย 4 9.แยกนิด้า 10.แยกอุรุพงษ์ 11.แยกประดิพัทธ์ 12.แยกรัชดาฯ - พระราม 4 13.แยกลำสาลี 14.แยกบ้านแขก 15.แยกบางพลัด 16.แยกนรินทร 17.แยกราชประสงค์ 18.แยกอโศกสุขุมวิท 19.แยกสาทร 20.แยกตากสิน 21.แยกโพธิ์แก้ว 22.แยกพัฒนาการ-ตัดรามฯ 24 23.แยกร่มเกล้า 24.แยกศุลกากร 25.แยกเหม่งจ๋าย 26.แยกท่าพระ 27.แยกประเวศ 28.แยกอังรีดูนังต์ 29.แยกประชานุกูล และ 30.แยกบางโพ

ปรับ ค่าปรับมีอัตราเดียว 500 บาท เป็นความผิดตามพ.ร.บ.จราจรทางบก ข้อหาขับรถฝ่าฝืนสัญญาณจราจรไฟสีแดง มาตรา 22 (2) มีโทษตามมาตรา 152 ปรับไม่เกิน 1,000 บาท และตัดแต้ม 40 คะแนนใครเลี่ยงบาลีเอากระดาษปิดป้ายทะเบียนหวังหลบเลี่ยง โดนปรับเพิ่ม

เรียนทุกคนเพื่อทราบ

-- กรุณาแจ้งกลับเมื่อโดนคนแรก --

วันอาทิตย์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2551

ขับรถเข้ากรุงคนเดียว

ผมออกจากบ้านประมาณ 10 โมงครึ่ง พอดีว่าขับรถคนเดียวเลยขอลองอีกทางละกัน เพราะถนนมิตรภาพไม่ค่อยจะราบรื่นอย่างที่คิด ถนนซ่อมแล้วนะแต่ซ่อมเฉพาะที่พัง เหมือนแป๊ะตูดกางเกงอย่างนั้นแหละ มันเลยทำให้เวลาขับแล้วไม่เรียบเอาเสียเลย

ถนนช่วง อ. หนองสองห้องไป อ. ประทาย ก็ถือว่าทำดีทีเดียว เพราะผิวถนนไม่ได้ขรุขระ วิ่งราบรื่นดี แต่ว่าเส้นนี้จะยังไม่ขยายให้ใหญ่เหมือนเส้นทางหลัก เวลาจะแซงก็ต้องระวังมากและต้องเร่งเครื่องมากกว่าปกติ ซึ่งทำให้เกิดการสิ้นเปลืองน้ำมันแม้ว่าจะไม่มากมายอะไร แต่ก็อดห่วงไม่ได้

ช่วงประมาณ ต. ตลาดไทร ก็มีเรื่องเสียวอีกครั้ง ลักษณะเหมือนเมื่อวานนี้ แต่คราวนี้ เราเป็นคนวิ่งสวน ไม่ใช่เป็นฝ่ายเร่งแซง ก็บีบแตรใส่นิดหนึ่ง เพื่อเรียกน้ำย่อย ประมาณเตือน ๆ ว่าทีหลังอย่าทำอีกนะ

พอถึง อ . ประทาย แต่เนื่องจากว่า ตอนนี้เขามีการจัดงานเทศกาลที่ตัวอำเภอ เลยต้องปิดถนนข้างหนึ่ง แล้วเปลี่ยนให้รถวิ่งสวนกันที่เลนทางขวาแทน ก็ยังถือว่ายังดีที่เป็นงานในตัวอำเภอ รถเลยวิ่งกันไม่เร็วเยอะ ทำให้ต้องเพิ่มความระมัดระวังกันมากขึ้น

หลังจากเลี้ยวซ้ายจากแยกบ้านวัดไปไม่นาน แต่คิดว่าน่าจะเป็นเขตของอำเภอโนนสูงมั่ง เพราะเห็นรถตำรวจเป็น สภอ. โนนสูง รถติดเป็นหางยาวไปไกลมากเหมือนกัน เอาละสิ .. นึกว่าติดไฟแดง แต่เป็นอุบัติเหตุปิดจราจรซะแล้ว ยังไงก็ต้องขอให้ผ่านตรงนี้ไปได้ด้วยดีนะ จะได้ไม่เสียเวลาในการเดินทาง


พอวิ่งมาถึงก็พบว่ามีรถเครนสำหรับยกรถ ขึ้นมาจากร่องกลางถนน กู้ภัยฯ ก็โบกให้ขับไปเรื่อย ๆ ส่วนสภาพรถที่ยกขึ้นมาก็บอกได้คำเดียวว่าเละแบบสุดยอดจริง ๆ ท่าทางเขาคงขับมาเร็วมาก ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเกิดเหตุนานแล้วหรือยัง จริง ๆ อย่าว่าแต่เขาเลย ผมเองก็ขับมาแบบ 100 เกือบตลอดเส้นทาง :)

อุบัติเหตุอีกครั้งที่เจอระหว่างทางคือช่วงกลับรถก่อนเข้าสระบุรี คาดว่าน่าจะมีรถกำลังกลับรถ โดยรถที่อยู่เลนในสุดหรือขวาสุดนั้นหยุดเพื่อให้ผ่านแล้ว แต่เลนซ้ายสุดอาจจะมองไม่เห็นว่ากำลังมีรถกำลังข้ามถนน ผมเหลือบมองแว๊บหนึ่ง เป็นรถกระบะ มีโครงเหล็กด้านหลัง พลิกคว่ำตรงไหล่ทาง แต่อีกคันไม่แน่ใจ เพราะคนกำลังมุงดูเยอะและผมเองกำลังขับรถอยู่เลยไม่ได้สนใจอะไรมาก

พอหลังจากที่จ่ายค่าผ่านด่านมาสักระยะ ก็สังเกตว่าไฟบอกระดับน้ำมันขึ้นแล้ว ยุ่งละ.. ซวยแน่ ๆ ถ้าเกิดหมดจริง และยังวิ่งอยู่ในวงแหวนแบบนี้ แต่จากที่เคยทำมา คิดว่าน่าจะถึงที่หมายก่อนแหละ หรือถ้าไม่ได้จริง ๆ พอออกจากวงแหวนค่อยปั้มเติมละกัน

จนแล้วจนรอด ก็ออกวงแหวนจะเข้าอ่อนนุช แต่น้ำมันก็ยังไปต่อได้ และเพิ่งถึงบางอ้อว่า จากประเวศเข้ามาที่ศรีนครินทร์นั้น ไม่มีปั้ม ปตท. เลย เลยเลี้ยวซ้ายไปทางซีคอน หาปั้ม ปตท. แต่ก็ไม่มีอีกเหมือนเดิม เออ.. งั้นกลับรถที่ซีคอน แล้วค่อยเติมปั้มเชลล์ล่ะกัน ไม่หามันแล้ว เสียเวลา ขับรถมาทั้งวัน เหนื่อยก็เหนื่อย อะไรก็เหมือนกันแหละ..


วันเสาร์ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2551

เมื่อต้องออก ตจว

เช้านี้ ต้องตื่นมาแต่เช้า ประมาณตี 4 ได้แหละ เพราะจะไปส่งน้องเจไดกลับบ้าน ตจว. แต่กว่าจะออกจากห้องได้จริงก็เกือบหกโมงเช้า นี่ขนาดขนของลงไปใส่รถไว้ตั้งแต่ตอนเย็นแล้วนะ พอถึงตลาดเอี่ยม ฯ ก็จอดกดตังค์กับซื้อหมูปิ้งสักหน่อย เผื่อหิวจะได้กินได้เลย

พอวิ่งเข้าวงแหวนตะวันออก รู้สึกว่ารถไม่เยอะเท่าไร วิ่งได้สบาย ๆ แต่จะป้ายบอกทำถนนเยอะเหมือนกัน บางทีก็วางกวรยไว้ขอบทาง แบบล้ำเส้นเข้ามา ก็มีต้องวิ่งหลบกันบ้าง ดีว่าเราออกมาเช้า ๆ แบบนี้ อากาศกำลังดี แสงแดดโผล่มากราย ๆ เลยไม่ได้มืดจนต้องใช้อาศัยไฟหน้าอย่างเดียว เพราะไม่อย่างนั้นก็อาจจะขับลำบากไปนิดเหมือนกันแหละ

วิ่งมาตั้งไกล น้ำมันเริ่มพร่องไปบ้างแล้ว เลยแวะเติมน้ำมันที่ปั้ม ปตท. น่าจะประมาณ อ. แก่งคอย ช่วงนี้มองดูราคาน้ำมันค่อยชื้นใจหน่อย ลดลงมาเยอะมาก ผมกะจะเติมสัก 600 เพื่อให้เต็มถังแต่ใส่ไปได้แค่ 440 บาทก็เติมต่อไม่ได้แล้ว ถูกกว่าที่เราคิดมาก

จากนั้นก็ขับสบาย ๆ ไปเรื่อย ๆ คอยหลบแต่หลุมกับรถบรรทุกเท่านั้นแหละ ขับรถวันหยุดที่ไม่ใช่เทศกาลก็ดีแบบนี้แหละ รถไม่เยอะ ไม่ต้องกังวลอะไร วิ่งซ้ายที ขวาที แต่ไม่ใช่เซเหมือยเมานะ ขับแบบนี้จะได้ไม่เบื่อหรือง่วงนอน คอยะระวังแต่ความเร็วเท่านั้นแหละ เดี๋ยวโดนส่องเอาได้ :)

พอถึงเมืองพลก็แวะเข้าโลตัส ซื้อนมกับของใช้นิดหน่อย จากนั้นก็วิ่งออกไปทาง อ. หนองสองห้อง ถนนเส้นนี้จะเป็นแบบเลนคู่ เวลาจะแซงก็ต้องเร่งเครื่องเพื่อแซงให้ได้ ไม่ยังงั้นก็ไม่พ้น มีช่วงหนึ่งที่กำลังเร่งเครื่องเพื่อจะแซงเพราะเห็นว่ารถปิกอัพคันข้างหน้ามันวิ่งช้า ๆ เหยียบมาแล้วประมาณ 120 ได้มั้ง พอดีมีรถวิ่งสวนมาอีกคัน ... เสียวมากจริง ๆ ดีที่ว่าถนนยังกว้าง พอให้รถ 3 คัน วิ่งสวนกันได้ ผมก็เลยขอผ่อนคันเร่งหน่อยละกัน อย่าไปเลย เอาให้ชัวร์ก่อนค่อยเร่งเครื่องใหม่อีกที :)

หลังจากนั้นก็วิ่งมาเรื่อย ๆ ซิ่งบ้าง ผ่อนบ้างตามจังหวะ พอถึงช่วงประมาณ ต. สำโรงมั่ง แต่แล้วก็ต้องเหยียบเบรคกันแบบจะหยุดรถให้สนิทให้ได้เลย ก็เจอหลุมกลางถนนสิครับ มีหลายขนาดมาก เล็ก-กลาง-ใหญ่มีเกลื่อนถนนไปหมด คล้ายๆ พวกอุกกาบาตลงกลางถนนยังงั้นเลยแหละ พอเจอแบบนี้ ก็ไม่กล้าซิ่งอีกแล้ว คลานเอาก้ได้อ่ะ อีกไม่ 30 โลก็จะถึงบ้านแล้ว




Google
 

Download unlimited stock photos!

Wikipedia

ผลการค้นหา