วันศุกร์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2551

นัดเปลี่ยนโคมไฟหน้า

หลังจากที่เลื่อนนัดกับทางศูนย์ฮอนด้านครินทร์ มา 2-3 ครั้ง บวกกับที่เราเองก็ไม่ค่อยสะดวกที่จะเอารถเข้าศูนย์ ฯ สักที

เช้าวันนี้ ก็ต้องออกไปซื้อของใช้ที่ซีคอนอีก เลยขอผ่อนผันไปก่อนล่ะกัน

ประมาณเที่ยงเศษ ๆ พอซื้อของใช้เสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็เลยลองโทรเข้าศูนย์ ฯ ดูสักหน่อย เผื่อนัดเอารถเข้าพรุ่งนี้ เพราะยังไงก็เป็นวันเสาร์ น่าจะง่ายหน่อย คุยไปคุยมา เลยถามตรงว่าใช้เวลาทำนานมั้ย ช่างก็บอกว่าสัก 2-3 ชั่วโมงก็เสร็จ เลยบอกให้เขาเช็คงานก่อน ว่าวันนี้เข้าได้ปล่าว คำตอบที่ได้คือ โอเคครับ งั้นไม่รออะไรอีกแล้ว วางสายเสร็จก็เตรียมเอารถไปที่ศูนย์ฯ เลย

พอไปถึงศูนย์ ฯ ก็บอกว่าเปลี่ยนโคมไฟ จากนั้นก็ทำเรื่องเอกสาร กับเซ็นต์ชื่อกำกับในเอกสารนิดหน่อย ประมาณ 20 นาที ผมก็เลยบอกเขาว่างั้นเดี๋ยวเย็น ๆ จะมารับละกัน

พอกลับมาถึงบ้าน อ้าวววว ลืมสมุดบัญชีธนาคารในรถเล่มหนึ่งเป็นของผม ส่วนอีกเล่มเป็นของแฟน .. ได้แต่ภาวนาในใจว่าคงไม่หายหรอกมั้ง คงไม่หายไปไหนหรอก เพราะมันอยู่ด้านในซอกประตูฝั่งคนขับ ... :)

ผ่านไป 2 ชั่งโมง ช่างโทรมาบอกว่ารถเสร็จแล้วครับ พี่จะมารับเลยมั้ย ผมก็ตอบไปเลยว่าเดี๋ยวไปเอาครับ ไม่เกิน 6 โมงเย็น ..

ผมใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็ถึงศูนย์ ฯ เป็นเวลาที่ไม่ได้มืดมากอย่างเท่าไร เดินเข้าไปบอกว่ามารับรถ พนักงานต้อนรับก็ขอดูเอกสาร พร้อมกับเรียกช่างให้ขับมาส่ง ... ตรงนี้รอนานมากเหมือนกัน ตอนแรกนึกว่าจะไม่นานเพราะคนที่รับเรื่องก็วิทยุไปฝ่ายช่างให้เอารถออกมาได้เลย ลูกค้ามาแล้วและก็ไม่ค่อยมีคนด้วย แต่ดูดีแล้วมีเหมือนว่าจะมีคิวรอนานกว่าเราก็มีแฮะ .. และเราก็น่าจะต้องรอนานสักหน่อยละมั้ง แต่เอาเหอะ... รอไปก่อนดีกว่า คงไม่นานมากหรอก ...

จนกระทั่งผมเห็นช่างขับรถออกมาจอดตรงที่จะส่งมอบรถให้ลูกค้า พนักงานที่รับเรื่องก็เรียกผมให้ไปดูที่รถ พร้อมกับอธิบายอะไรหลายๆ อย่างว่า ประมาณว่าโคมไฟเปลี่ยนให้แล้วนะ กระจกที่ฝั่งผู้โดยสารเช็ดเรียบร้อยแล้ว ถ้ามีปัญหาอะไรก็ติดต่อเข้ามาได้เลย ส่วนบานตูด้านในต้องรออีกสักหน่อยเพราะต้องใช้เวลาในการทำ เดี๋ยวจะเรียกเข้ามาอีกที .. ผมก็โอเคแหละครับ เพราะจริง ๆ เราไม่ได้ดูให้ละเอียดก่อนรับรถงวดที่แล้ว

จากนั้นก็ขับรถกลับบ้านสบาย ๆ แม้รถจะติดสักหน่อยตรงที่จะกลับรถหน้าศูนย์ ฯ แต่ก็ไม่มากนัก ยังพอตีไปเลี้ยวเข้าไปเลนในได้เรื่อย ๆ อ่ะ ..


วันศุกร์ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2551

การจอดรถที่ร้านบ้านไร่กาแฟ

ถ้าเอ่ยถึง ร้านกาแฟตรงซอยทองหล่อ ทุกคนก็ต้องคิดถึงร้านที่ชื่อว่าบ้านไร่กาแฟ เพราะเป็นจุดที่มองเห็นได้ชัดเจนจากแยกทองหล่อ และนั่นแหละ หลายคนก็ชอบนัดกันมาที่นี่ เพราะเขามี wifi ไว้ให้บริการด้วย ส่วนสรรพคุณอย่างอื่น อยากรู้เรื่องอะไรบ้างลองใช้ Google หาต่ออีกทีนะครับ ผมไม่ขอกล่าวละกัน เอาเป็นว่าเรามาว่ากันต่อเรื่องการจอดรถที่ร้านนี้

ลานจอดของร้านสามารถเข้าได้ทางซอยทองหล่อเท่านั้น โดยถ้าเลี้ยวซ้ายจากสุขุมวิท เข้าไปในซอยคงไม่ถึง 10 เมตรมั้งครับ ก็จะเจอทางเข้าร้ายอยู่ขวามือ แต่ต้องจอดรอเพื่อตัดช่องกับรถที่วิ่งอยู่เลนขวา และถ้าไม่ที่ติดไฟแดงแล้วโอกาศที่ข้ามถนนเข้าร้านก็น้อยมาก ฉะนั้น ทำได้เดียวต้องรอจนกว่ารถจะติดไฟแล้วค่อยแทรกเข้าไปครับ ต้องขอบอกก่อนว่าลานจอดของร้านนั้นเล็กมาก รับรถได้แค่ไม่กี่ 20-30 คันเท่านั้นเอง แต่คนนิยมมากเหมือนกันเลยทำให้ลานจอดรถไม่ค่อยพอ

อีกวิธีหนึ่งที่ทำได้ก็คือเข้าไปจอดใน Major ทองหล่อซึ่งอยู่เส้นสุขุมวิทห่างจากร้านไปไม่กี่ 15 เมตรและสามารถจอดได้หลายคันกว่า เห็นในบอกว่าจอดเป็นพันคัน เลยทำไห้สะดวกดีเหมือนกัน

นอกจากนั้นยังมีอีกที่ คือสามารถเข้าไปจอดในลานจอดรถของวัดธาตุทองได้ ซึ่งตรงนี้ก็จอดได้หลายร้อยคันเลยทีเดียว จากนั้นค่อยเดินมาที่ร้านก็สะดวกดีไปอีกแบบ

วันอังคารที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2551

สีหย่นด้านในประตูข้างหลัง

วันนี้กลับบ้านเร็วกว่าปกติ พอมีเวลาเอารถเข้าล้างที่ปั้มคาลเทกซ์ ซอยอ่อนนุช 39 เพราะใกล้บ้าน ใช้เวลาไม่นานก็เสร็จ ใช่.. รู้สึกว่าเสร็จเร็วกว่าปกติ แต่เอาเหอะ เดี๋ยวต้องไปรับแฟนอีกทีเลยไม่ได้ใส่ใจมากอะไร

พอไปถึงที่ทำงานแฟนก็จอดรอที่ลานจอดรถเหมือนเดิม มาที่นี้ทีไรนะ ก็ต้องคิดเหมือนกันว่าจะมีที่จอดหรือเปล่า จริง ๆ เขาก็มีลานจอดรถของเขาเองนั่นแหละ แต่เต็มตลอด บางทีถ้าเซลล์เข้าก็ยิ่งหนัก หาที่จอดยากมาก แค่จะกลับรถยังยากเลย จริง ๆ ผมว่าเขาจอดไม่ค่อยเป็นระเบียบมากกว่า เพราะอยากจอดก็จอดเอาดื้อ ๆ แถมไม่ปล่อยเกียร์ว่างอีก เฮ้ย .. เหนื่อยใจจริงๆ กับคนพวกนี้

เอาละ บ่นพอแล้ว ขอวกเข้าเรื่องที่เจอวันนี้ก่อนดีกว่า ก็ตอนที่จอดรอแฟนที่ลานจอดรถ ว่าง ๆ ก็เลยสำรวจหน่อยว่าสภาพรถตอนนี้เป็นไงบ้าง พร้องๆ กับเช็ดร่องรอยที่เขาล้างไม่สะอาดออกไปด้วย และแล้วก็เจอเข้าจนได้ ตรงไหนทราบมั้ยครับ ลองดูจากภาพข้างล่างนะ ..


เดาถูกกันมั้ยครับ ผมขอเฉลยเลยดีกว่า ก็มุมประตูหลังด้านขวา ใช่.. ประตูข้างหลังคนขับนั่นแหละ แต่เป็นที่ข้างใน ตรงที่ติดกับแผ่นยางระหว่างประตูกับบานประตูเลยครับ เกิดอะไรขึ้นอีกละเนี่ย แต่ผมดูๆ แล้วไม่น่าจะเกิดจากการกระทำของคนหรอก เพราะว่ามันอยู่ด้านใน ตรงขอบประตูก็ไม่เห็นว่ามีอะไรขูดเลยสักนิดเดียว


วันจันทร์ที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2551

ที่กลับรถตรงพระราม 4 อีกแล้ว

คราวนี้ตรงกอนถึงร.พ. เทพธารินท์ ตอนแรกก็เห็นหรอกว่ามีรถป้ายแดงคันหนึ่งน่าจะเป็น APV หรือ Avanza นะเพราะพวกสูง ๆ ผอม ๆ คงมีไม่กี่รุ่นหรอก ก็ไม่ได้คิดว่าเขาจะออกมาหรอก เพราะรถเยอะมาก อีกทั้งข้างหน้าข้างหลังของผมก็มีรถมากเหมือนกัน

แต่แล้ว มีรถอีกคันที่พึ่งจะวิ่งเข้ามา ซ้อนทางขวารถป้ายแดงคันนั้นพุ่งออกมา โอย หัวใจจะวาย มันมาแบบเร็วและแรงมาก เป็นพวกรถปิกอัพนี่แหละ ไม่ได้มองสูงขึ้นไปอีก ห่วงแต่หน้ารถของเขาว่าจะชนเราหรือป่าว มันเสียบมาแบบเร็วมาก แรงมาก อย่างไรก็ตามรถเขาคงไม่เป็นไรหรอก เพราะมีโครงเหล็กตรงกันชนหน้าบังไว้ แต่ของเราสิ ไม่อยากคิดเลย โคตรเสียวเลย !!

เลยมาได้หน่อย ก็พอดีมีที่จอดทางขวา เข้าไปนิดหนึ่ง ขอจอดดูหน่อยดีกว่า แต่ก็ว่าไม่น่าจะโดนหรอก เพราะถ้าโดนก็คงหมุนหรือมีการแตกหักกันบ้าง .. พอจอดรถแล้วก็สำรวจรอบคันสักหน่อย ก็ไม่มีอะไรหรอก แต่มันหมั่นไส้บวกกับตกใจมากกว่า พอเห็นว่าไม่มีอะไรก็สูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ แล้วก็ขับต่อไปตามปกติ ..


วันพฤหัสบดีที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2551

เหตุเกิดที่ปากซอยเข้าออกหน้าบ้าน

เหตุเกิดที่ปากซอยเข้าออกแถวบ้าน หน้าบ้านนั่นแหละ พอดีวิ่งถึงปากซอย มีรถปิกอัพคันหนึ่งตีไฟจะเข้าซอย ผมก็เลยวิ่งออกมาเลยเพราะเขาข้ามเลนกลางถนนจะเข้าแล้ว ผมก็เลยวิ่งออกไปเลยเพราะ ถ้าไม่ออกก็กักทางเข้าออกอยู่แล้ว พอออกมาก็ต้องติดก่อนข้ามเส้นกลางถนนไปเพราะรถวิ่งกันมาเยอะ แต่แล้วผมก็เหลือบไปเห็นทางขวาว่ามีรถปิกอัพอีกคัน มาจอดอยู่ไกล้ ๆ เออ.. รถข้ามถนนเข้าซอย เขาไม่เหยียบเบรคบ้างรึไง เมื่อกี้เห็นอยู่ไกล ๆ แต่ทำไมตอนนี้มาไกล้แล้ว พอดีผมเปิดหน้าต่างไว้นิดหนึ่ง ได้ยินเสียงบ่นกันจัง ประมาณว่าขับรถไม่ดูซ้ายขวาหรือไง แปลกกว่านั้น ผมได้ยินเสียงผู้หญิงนั่งข้าง ๆ คนขับด่ามาด้วยมั่ง แต่ไม่สนใจแล้วอารมณ์นี้ ออกมาแล้วนี่นา กลับไม่ได้อยู่แล้ว รถทางซ้ายว่างพอดีเลยรีบบึ่งไปเลย .. ช่างมัน ฉันไม่แคร์ประมาณนั้น :)


Google
 

Download unlimited stock photos!

Wikipedia

ผลการค้นหา