ซ่อมเสร็จแล้วคร๊าบบบ

หลังจากที่ผมนำรถเข้าไปศูนย์ฯเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาผมเลยไม่มีรถใช้ไปหนึ่งวัน ซึ่งก็ไม่ได้มีผลอะไรมากเพราะผมไม่ได้แปลนว่าจะไปไหนนั่นเองจะว่าไม่ไปก็ไม่ถูก เพราะผมพาลูกไปเดินเล่นที่ซีคอนตอนบ่ายของวันอาทิตย์เลยต้องพึ่งรถสาธารณะล่ะครับ :)

ก่อนเที่ยงวันนี้ ช่างโทรมาบอกว่าตอนนี้รถเสร็จเรียบร้อยแล้วพร้อมบอกราคาเสร็จสรรพ คร่าว ๆ ก็ประมาณ 1600 บาทครับ ซึ่งผมคิดว่าก็พอรับได้ไม่ได้แพงจนเกินกว่าจะรับไม่ได้ เอาเป็นว่าแลกกับความสบายใจครับว่าได้ของดี ของแท้มาเปลี่ยนล่ะกัน

หลังเลิกงานตอนเย็น ผมก็รีบออกจากที่ทำงานเพื่อจะไปรับรถแต่ครั้งนี้ ผมเปลี่ยนจากที่เคยนั่งแทกซี่จากปากซอยไปศูนย์ฯ ผมลองใช้บริการเรือโดยสารจาก(ใต้)สะพานพระโขนงไปถึงสะพานศรีนครินทร์ใกล้กับตลาดเอี่ยมสมบัติ ซึ่งผมเคยเห็นว่ามีเรือวิ่งรับส่งคนในคลองนี้แต่ไม่เคยขึ้นสักที เพราะผมยังมีเวลาอีก 2 ชั่วโมงกว่าศูนย์จะปิดมันคงไม่ช้ามากขนาดนั้นได้แน่นอน

โดยส่วนตัว ผมคิดว่าเป็นการเดินทางที่ทำให้สุขภาพจิตดีนะเพราะไม่ต้องคอยเบียดเสียดหรือทนควันพิษบนถนนอ่อนนุชและไม่ต้องห่วงเรื่องรถติดด้วยในตอนเย็น ๆ แบบนี้ ผมใช้เวลาประมาณ 40 นาทีของการเดินทางซึ่งถ้าเป็นรถสองแถวหรือแทกซี่เข้าไปจนถึงตลาดเอี่ยมฯ ก็ใช้เวลาประมาณนี้เลย ส่วนค่าโดยสารก็ 10 บาทตลอดสายแพงกว่ารถสองแถวนิดหนึ่งแต่เป็นทางเลือกที่ดีครับ

พอไปถึงศูนย์ ฯ ผมเข้าไปกดรับบัตรคิวและนั่งรออยู่เกือบ 10 นาทีได้มั้ง จึงมีพนักงานมากดหมายเลขเรียกลูกค้า ถ้าคนเยอะ ผมก็บอกว่าโอเคแต่นี่ไม่มีคิวรอก่อนหน้าผมเลย ฉะนั้น ผมถือว่าบริการช้านะเพราะไม่มีคิวรอ แต่ว่ามีพนักงานมารับลูกค้าแค่คนเดียว ผมคิดว่า แม้ว่าจะหลัง 5 โมงเย็นก็ควรจะมีพนักงานมาต้อนรับลูกค้ามากกว่าหนึ่งคน หากยังเปิดบริการ ถ้ามีพนักงานมาต้อนรับอยู่คนเดียวอาจจะเสียเวลาที่ต้องออกไปเรียกช่างให้เอารถมาส่งให้ลูกค้าคนอื่น ๆ พลอยทำให้ลูกค้าคนอื่น ๆ ที่รออยู่นั้นต้องรอนานไปด้วยครับ

บ่นเรื่องศูนย์ไปนิดหนึ่งพอแล้ว กลับมาที่เรื่องรถต่อดีกว่า.. พอผมออกมาดูที่รถ พนักงานก็ยื่นกล่องสีน้ำตาลให้ผมกล่องหนึ่ง พร้อมบอกว่า นี่เป็นอะไหล่ที่เปลี่ยนไปครับ ผมเปิดออกมาดู ก็เป็นไปตามที่คาดไว้ครับ มันเป็นแผงสวิทช์ควบคุมกระจกขึ้นลง ผมลองเอามามาดม ๆ ดู มันก็ยังเหม็นเหมือนเดิม เออ เปลี่ยนจริง ๆ ล่ะ :P

ผมเลยลองมันมาเทียบให้ดูเล่น ๆ ว่ามันมาจากไหน 5555...


สิ่งหนึ่งที่ผมชอบทำก่อนที่จะขับรถออกจากศูนย์ฯ คือต้องสำรวจรอบคันและเปิดปิดประตูทำบานว่าใช้ได้ ไม่มีรอย ไม่มีอะไรมาทำร้ายรถของเราในระหว่างที่ฝากในศูนย์ ฯ อาจจะมองโลกไม่ดีเท่าไร แต่ถ้าเจอแล้วบอกเลยจะดีที่สุด เพราะถ้าเอาออกไปแล้ว
เราโทรมาบอกผมเกรงว่าเขาจะไม่สนใจหรือปัดความรับผิดชอบ(อย่างที่บางคนหรือหลายคนเจอในเวบบอร์ดรถทั้งหลาย)
ซึ่งจะพลอยทำให้เราเองเสียอารมณ์เปล่า ๆ เสียเวลานิดหนึ่งก่อนสตาร์ทรถดีกว่าเสียเวลาตามเรื่องอีกนาน.. :)