เรื่องมันเกิดที่ไฟแดงอ่อนนุช แยกไฟแดงทางสวนหลวง ต่อไปก็คงจะเรียกแยกนี้ว่าเป็นแยกอันตรายบ้างแล้ว เพราะว่ามีเหตุชวนสยองตรงนี้ตั้งหลายครั้งแล้ว ไม่ว่าจะเป็นขาเข้าหรือขาออก ก็เจอประจำแม้ว่าจะยังไม่เกิด แต่ก็เฉียดไปหลายครั้ง มันเลยพลอยทำให้อารมณ์เสียตอนขับรถไปตลดทาง ...
เรื่องมันมีอยู่ว่า ...
ผมก็เห็นเลนซ้ายมันว่าง ก็เลยตีไฟวิ่งออกซ้ายไปเลย เพราะไม่อยากรอให้รถเลี้ยวขวาไปจนหมด ผมมองดูข้างหน้ามันก็โล่งนะไม่มีอะไร ซึ่งถ้าหลุดจากรถที่รอเลี้ยวขวาไปก็สบายแล้ว
พอเลี้ยวออกตัวไปเรียบร้อยแล้ว ตั้งตัวตรงพร้อมซิ่ง ผมก็เห็นรถแทกซี่สีส้มวิ่งออกมาแบบไม่ดูตาม้าตาเรือเลย คือแบบแกมาประชิดขวามือผมเลยทีเดียว ผมก็เลยบีบแตรใส่ไป 2 - 3 ที แต่ยังเฉยไม่มองมาเลยสักนิด แถมยังซิ่งตัดหน้าเราออกไปเฉยเลย แบบจะรีบขนาดนั้น ดูท่างทางไม่มีผู้โดยสารด้วยมั้ง
บอกตามตรงว่า ถ้าผมไม่อยากเสียเวลา และต้องใช้รถเสาร์นี้ ผมคงจะหักพวงมาลัยใส่ให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย เซ็งมาก ๆ เลย มันไม่ใช่แค่หมั่นใส้หรือลำคาญแล้ว เรียกว่าโกรธจัดเลยทีเดียว เขาทำแบบนี้ได้ไง เขาอยู่ข้างหน้าผมไปอีก 3-4 คัน ถ้าไม่เห็นว่าผมออกมาก่อนก็คงไม่ใช่เหตุผลแล้วล่ะ
สุดท้ายก็ลืมไปเลยที่จะจดหมายเลขทะเบียนไว้ เพราะมัวแต่โกรธ ๆๆๆๆ อยากเอาคืนจริง ๆ แต่ไม่มีโอกาส.. ถ้าเจออีกรอบนะ จะชนจริง ๆ เลย!!
วันจันทร์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2553
วันอังคารที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2553
ขับรถเข้ากรุงคนเดียว
หลังจากที่ผมออกจากกรุงเพพมาตั้งหลายวัน วันนี้ก็ได้เวลาที่ผมจะต้องกลับเข้ากรุงเทพเพื่อกลับไปทำมาหากิน (ทำงาน) เหมือนเดิมแล้วสินะ
ตลอดการเดินทาง ผมเห็นมีการตั้งด่านตรวจ และมีการตั้งกรวยกรองรถบ้างเหมือนกันนะ แต่ผมก็ไม่ได้โดนเรียกตรวจค้นสักครั้ง
ด่านแรกที่เจอคือตอนเลี้ยวซ้ายเข้าสายเอเชียที่เมืองพล ด่านนี้จะอยู่ไม่ไกลจากไฟแดงมากนักและมีตำรวจเยอะมาก แต่ก็เป็นการสุ่มเช็คเท่านั้น ผมก็ไม่ได้โดนเรียกหรอก เขาคงเห็นว่าผมเพิ่งจะออกมากถนนสายรองที่แยกไฟแดงนั่นเอง
พอมาติดไฟแดงที่แยกสีดา ผมก็เห็นมีตำรวจคนหนึ่งเดินไปคุยกับคนขับรถบรรทุกเล็กคนหนึ่งที่ฝั่งขาไปขอนแก่น ผมเดาเอาเองว่าคงประมาณให้ไปหยุดตรวจข้างหน้าอะไรทำนองนั้น เพราะเห็นแกชี้ไม้ชี้มือไปข้างหน้า แต่ผมก็ไม่เห็นมีคนยืนรอที่ข้างหน้าเลยจากไฟแดงไปนะ เอาเป็นว่าเขาาคงมาถามสาระทุกข์สุกดิบกันเท่านั้นแหละมั้ง
จากนั้น ตำรวจคนนั้นก็มายืนรอตรงเกาะกลางถนนเหมือนจะข้ามกลับไปที่ป้อมแต่ก็ไม่ข้าม พอดีรถขาเข้ากรุงเทพได้สัณญาณไฟเขียว แล้วแกก็เดินลงมาที่ถนนข้ามกลับไปที่ป้อม แต่หยุดอยู่ตรงนั้นเลยแหละ แล้วโบกมือให้รถปิคอัพหรือ crv นี่แหละให้เข้าเลนซ้ายสุดเพื่อตรวจเช็ค ผมก็ไม่ได้สนใจมองไปให้ทั่วคันว่าเป็นรุ่นไหน รู้แต่ว่าตรงไฟหน้าเขามีตกแต่งตัวครอบไฟสีโครเมี่ยม แต่จะซิ่งออกตัวไปให้พ้น ๆ เท่านั้น
ผมสังเกตว่าเขาจะขึ้นป้ายบอกให้เลี้ยวขวาเพื่อเลี่ยงเข้ากรุงเทพตรงใกล้แยกเทพาลัย ซึ่งเป็นการแบ่งรถไปทางด่านขุนทดในช่วงเทศกาลสงกรานต์ แทนการปล่อยให้รถขึ้นไปจุกกันที่ลำตะคอง เพราะจะทำให้รถติดกันเป็นขบวนยาวเหยียดกันทุกปี
พอมาถึงปากช่อง ผมรู้สึกเมื่อยล้านิดนิดเลยต้องหาที่พักรถสักหน่อย .. ผมเลือกแวะเข้า HomePro ที่กลางดง อ. ปากช่องเพราะจะได้เอารถเข้าร่มและเข้าห้องน้ำแบบเย็นสบาย .. :)
ผมขับไปได้สักพัก ก็เริ่มจะรู้สึกหิวขึ้นมา แต่เผอิญช่วงนั้นเป็นบนเขา เลยหาปั้มยากสักหน่อย ผมขับไปจนเกือบจะถึงสระบุรี จึงแวะเข้าปั้มปิโตรนัสหาขนมใส่ท้องสักหน่อย คงไม่ต้องไปนั่งทานข้าวเป็นจริงเป็นจังมากขนาดนั้น เพราะตามปกติ ถ้าขับรถทางไกล ผมก็ไม่ชอบจอดรถพักแล้วไปนั่งทานข้าวนาน ๆ แล้ว อยากให้ถึงจุดหมายเร็ว ๆ มากกว่าน่ะ
หลังจากที่ได้ขนมรองท้องแล้วก็พร้อมออกเดินทางต่อ ผมขับรถไปแบบสบาย ๆ ไม่เครียดอะไร เพราะไม่เยอะ ไม่วุ่นวาย แม้ว่าจะเข้าสระบุรีแล้วก็ตาม
พอเลี้ยวเข้าวงแหวนตะวันออก ผมก็ทำความเร็วได้ดีพอสมควร แม้ว่ารถจะเยอะแต่อาศัยว่าถนนดี มี 4 เลนให้ทำให้รถแต่ละคันวิ่งกันแบบมันส์สะใจไปเลย ต่างคนต่างซิ่งแบบสุด ๆ
ผมมาถึงที่บ้านประมาณบ่าย 3 โมงนิด ๆ หรือยังไม่ถึงด้วยซ้ำ ซึ่งผมคิดว่าวันนี้น่าจะเป็นการขับทางไกลไม่ค่อยเครียดเหมือนทุกครั้ง ไม่เจออุบัติเหตุ ไม่เจอรถซิ่งตัดหน้า หรือขับมากวนใจอะไร..
สุดท้าย ผมอยากขอบคุณเพื่อนร่วมทางทุกท่านที่ขับรถดีมีมรรยาทตลอดการเดินทางวันนี้ .. :)
ตลอดการเดินทาง ผมเห็นมีการตั้งด่านตรวจ และมีการตั้งกรวยกรองรถบ้างเหมือนกันนะ แต่ผมก็ไม่ได้โดนเรียกตรวจค้นสักครั้ง
ด่านแรกที่เจอคือตอนเลี้ยวซ้ายเข้าสายเอเชียที่เมืองพล ด่านนี้จะอยู่ไม่ไกลจากไฟแดงมากนักและมีตำรวจเยอะมาก แต่ก็เป็นการสุ่มเช็คเท่านั้น ผมก็ไม่ได้โดนเรียกหรอก เขาคงเห็นว่าผมเพิ่งจะออกมากถนนสายรองที่แยกไฟแดงนั่นเอง
พอมาติดไฟแดงที่แยกสีดา ผมก็เห็นมีตำรวจคนหนึ่งเดินไปคุยกับคนขับรถบรรทุกเล็กคนหนึ่งที่ฝั่งขาไปขอนแก่น ผมเดาเอาเองว่าคงประมาณให้ไปหยุดตรวจข้างหน้าอะไรทำนองนั้น เพราะเห็นแกชี้ไม้ชี้มือไปข้างหน้า แต่ผมก็ไม่เห็นมีคนยืนรอที่ข้างหน้าเลยจากไฟแดงไปนะ เอาเป็นว่าเขาาคงมาถามสาระทุกข์สุกดิบกันเท่านั้นแหละมั้ง
จากนั้น ตำรวจคนนั้นก็มายืนรอตรงเกาะกลางถนนเหมือนจะข้ามกลับไปที่ป้อมแต่ก็ไม่ข้าม พอดีรถขาเข้ากรุงเทพได้สัณญาณไฟเขียว แล้วแกก็เดินลงมาที่ถนนข้ามกลับไปที่ป้อม แต่หยุดอยู่ตรงนั้นเลยแหละ แล้วโบกมือให้รถปิคอัพหรือ crv นี่แหละให้เข้าเลนซ้ายสุดเพื่อตรวจเช็ค ผมก็ไม่ได้สนใจมองไปให้ทั่วคันว่าเป็นรุ่นไหน รู้แต่ว่าตรงไฟหน้าเขามีตกแต่งตัวครอบไฟสีโครเมี่ยม แต่จะซิ่งออกตัวไปให้พ้น ๆ เท่านั้น
ผมสังเกตว่าเขาจะขึ้นป้ายบอกให้เลี้ยวขวาเพื่อเลี่ยงเข้ากรุงเทพตรงใกล้แยกเทพาลัย ซึ่งเป็นการแบ่งรถไปทางด่านขุนทดในช่วงเทศกาลสงกรานต์ แทนการปล่อยให้รถขึ้นไปจุกกันที่ลำตะคอง เพราะจะทำให้รถติดกันเป็นขบวนยาวเหยียดกันทุกปี
พอมาถึงปากช่อง ผมรู้สึกเมื่อยล้านิดนิดเลยต้องหาที่พักรถสักหน่อย .. ผมเลือกแวะเข้า HomePro ที่กลางดง อ. ปากช่องเพราะจะได้เอารถเข้าร่มและเข้าห้องน้ำแบบเย็นสบาย .. :)
ผมขับไปได้สักพัก ก็เริ่มจะรู้สึกหิวขึ้นมา แต่เผอิญช่วงนั้นเป็นบนเขา เลยหาปั้มยากสักหน่อย ผมขับไปจนเกือบจะถึงสระบุรี จึงแวะเข้าปั้มปิโตรนัสหาขนมใส่ท้องสักหน่อย คงไม่ต้องไปนั่งทานข้าวเป็นจริงเป็นจังมากขนาดนั้น เพราะตามปกติ ถ้าขับรถทางไกล ผมก็ไม่ชอบจอดรถพักแล้วไปนั่งทานข้าวนาน ๆ แล้ว อยากให้ถึงจุดหมายเร็ว ๆ มากกว่าน่ะ
หลังจากที่ได้ขนมรองท้องแล้วก็พร้อมออกเดินทางต่อ ผมขับรถไปแบบสบาย ๆ ไม่เครียดอะไร เพราะไม่เยอะ ไม่วุ่นวาย แม้ว่าจะเข้าสระบุรีแล้วก็ตาม
พอเลี้ยวเข้าวงแหวนตะวันออก ผมก็ทำความเร็วได้ดีพอสมควร แม้ว่ารถจะเยอะแต่อาศัยว่าถนนดี มี 4 เลนให้ทำให้รถแต่ละคันวิ่งกันแบบมันส์สะใจไปเลย ต่างคนต่างซิ่งแบบสุด ๆ
ผมมาถึงที่บ้านประมาณบ่าย 3 โมงนิด ๆ หรือยังไม่ถึงด้วยซ้ำ ซึ่งผมคิดว่าวันนี้น่าจะเป็นการขับทางไกลไม่ค่อยเครียดเหมือนทุกครั้ง ไม่เจออุบัติเหตุ ไม่เจอรถซิ่งตัดหน้า หรือขับมากวนใจอะไร..
สุดท้าย ผมอยากขอบคุณเพื่อนร่วมทางทุกท่านที่ขับรถดีมีมรรยาทตลอดการเดินทางวันนี้ .. :)
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)
Wikipedia
ผลการค้นหา